Share

รวม 3 วิธีการนำ AI มาเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ

เมื่อเทคโนโลยี AI ไม่ใช่แค่เทรนด์ แต่คือโอกาสที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้นไปอีกขั้น จึงทำให้ AI ได้เข้ามาเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับธุรกิจยุคใหม่เป็นอย่างมากที่ต้องการจะเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดต้นทุน และสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันให้เหนือคู่แข่ง ในยุคที่สภาพแวดล้อมทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วทำให้ธุรกิจต่างต้องปรับตัว และก้าวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทั้งภายนอก ไม่ว่าจะเป็น พฤติกรรมลูกค้า เทรนด์ทางธุรกิจ และเทคโนโลยีต่างๆ และภายใน ทั้งในเรื่องของการยกระดับวิธีการทำงาน และการนำเครื่องมือใหม่ๆ มาใช้ในการทำงานเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้า และพนักงาน เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ในบทความนี้เราจะมาแนะนำถึงวิธีการนำ AI ไปใช้งานเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ ที่จะสร้างความแตกต่าง และความได้เปรียบในการแข่งขันให้กับธุรกิจยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี

วิธีการนำ AI มาเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ

แนะนำ 3 วิธีในการ AI มาใช้เพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี

ธุรกิจยุคใหม่สามารถนำ AI มาช่วยในการเพิ่มศักยภาพ และขีดความสามารถได้ในหลากหลายด้านซึ่งขึ้นอยู่โจทย์ และเป้าหมายของแต่ละธุรกิจ โดยจากประสบการณ์จากการให้คำปรึกษา และพัฒนาโซลูชัน AI ให้กับธุรกิจชั้นนำหลากหลายนั้นสามารถสรุปวิธีการนำ AI ไปใช้เพื่อต่อยอดธุรกิจที่มักเจอบ่อยๆ ได้ดังต่อไปนี้

1. นำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล

ในปัจจุบันธุรกิจต่างต้องใช้ข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมากเพื่อนำมาวิเคราะห์ และต่อยอดในขั้นตอนการทำงานต่างๆ ซึ่งหากยังใช้วิธีการแบบดั้งเดิม หรือระบบแมนนวลในการวิเคราะห์ และประมวลผลข้อมูลนั้นแน่นอนว่าย่อมต้องใช้เวลา และอาจทำให้การนำข้อมูลไปใช้งานต่อนั้นทำได้อย่างล่าช้า ซึ่งอาจไม่ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ที่ต้องการความสะดวก และรวดเร็วในการใช้บริการ

โดยการนำ AI มาใช้ในการประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลนั้นจะช่วยให้ธุรกิจสามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำ  ทำให้ธุรกิจเข้าใจรูปแบบ พฤติกรรม และแนวโน้มของลูกค้า  ซึ่งสามารถนำไปใช้เพื่อปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาด พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 

บริการ AI-OCR ภาษาไทยเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถประมวลผล และดึงข้อมูลที่ต้องการจากเอกสารประเภทต่างๆ เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ในการวิเคราะห์ และใช้ในการตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะกับขั้นตอนทางธุรกิจที่ต้องการนำข้อมูลไปใช้ในขั้นตอนถัดไปแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนการยืนยันตัวตนที่ต้องมีการดึงข้อมูลจากบัตรประชาชนเพื่อนำไปใช้งานต่อในขั้นตอนต่อไป หรือการดึงข้อมูลจากใบแจ้งหนี้เพื่อนำไปใช้งานต่อในโปรแกรมบัญชี เป็นต้น

ตัวอย่างการนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลไปใช้งานกับธุรกิจ

  • ธุรกิจสถาบันการเงิน : สามารถนำบริการ OCR Bank statement มาใช้เพื่อดึงข้อมูลที่ต้องการจาก Bank statement ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปใช้วิเคราะห์การพิจารณาอนุมัติสินเชื่อต่อไป ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการทำงานไปได้มากกว่า 70-80% เมื่อเทียบกับการใช้ระบบแมนนวลแบบเดิม
  • ธุรกิจประกัน : สามารถนำ AI-OCR สำหรับธุรกิจประกันมาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อพิจารณาการเคลมสินไหมให้กับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถนำข้อมูลที่ดึงได้จากใบแจ้งหนี้โรงพยาบาลไปใช้ในการเข้าแบบจำลองช่วยทำนายผลการเคลมได้แบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น และต่อยอดในการทำตรวจจับการทุจริตของการเคลมได้
  • ธุรกิจค้าปลีก : สามารถนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลการขายเพื่อระบุสินค้าที่ขายดี  สินค้าที่ขายไม่ดี  และสินค้าที่ควรนำออกจากชั้นวาง รวมถึงสามารถนำ AI-OCR มาใช้เพื่อดึงข้อมูลจากในใบเสร็จรับเงินเพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการจับจ่ายของลูกค้า และต่อยอดเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำอย่างต่อเนื่องได้เช่นกัน

2. นำ AI มาใช้ในการให้บริการลูกค้า

การนำ AI มาใช้ในการให้บริการลูกค้านั้นจะช่วยยกระดับประสบการณ์การให้บริการลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้น โดย AI Chatbot เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่เป็นที่นิยมที่ธุรกิจมักนิยมนำมาใช้งานสำหรับการให้บริการลูกค้า ซึ่งจะช่วยทำให้ธุรกิจสามารถให้บริการลูกค้าเบื้องต้นได้แบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมงด้วยการคัดกรองลูกค้าให้ก่อน และช่วยจัดการคำร้องขอของลูกค้าบางอย่างได้แบบอัตโนมัติ ทำให้พนักงานมีเวลาโฟกัสกับเคสของลูกค้าที่มีความซับซ้อนได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนั้นยังสามารถนำระบบ AI-Knowledge management มาใช้เพื่อต่อยอด และพัฒนาเป็นระบบ Customer self-service ได้อีกด้วย ด้วยการนำระบบ AI-Knowledge management เชื่อมต่อกับ AI Chatbot และเว็บไซต์ของธุรกิจ รวมถึงแอปพลิเคชันในการสื่อสารกับลูกค้าอื่นๆ เพื่อให้ลูกค้าสามารถเข้ามาค้นหาข้อมูล หรือวิธีการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ด้วยตนเอง ซึ่งตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้ายุคใหม่ได้เป็นอย่างดี และช่วยลดปัญหาในการรอสายของลูกค้า เนื่องจากธุรกิจได้มีระบบที่ให้ลูกค้าสามารถเข้ามาค้นหาข้อมูล และวิธีการแก้ไขปัญหาได้ด้วยตนเอง

ตัวอย่างการนำ AI มาใช้ในการให้บริการลูกค้า

  • ธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ : สามารถนำ AI Chatbot มาใช้เพื่อให้ข้อมูล และแนะนำเกี่ยวกับวิธีการทำงานของซอฟต์แวร์ หรือแอปพลิเคชันในเบื้องต้นได้ รวมถึงช่วยแก้ไขปัญหาให้กับผู้ใช้งานเมื่อเจอปัญหาการใช้งานต่างๆ ในการใช้งานซอฟต์แวร์ที่จะทำให้ผู้ใช้งานสามารถใช้งานต่อได้โดยไม่กระทบกับการทำงาน
  • ธุรกิจการผลิต : เนื่องจากธุรกิจการผลิตมักจะเจอปัญหาในเรื่องความซับซ้อนของสินค้า และบริการ ซึ่งอาจทำให้พนักงานต้องคอยตอบคำถามกับลูกค้า หรือแม้กระทั่งตอบคำถามให้กับพนักงานภายในองค์กรด้วยกันเอง ดังนั้นการนำ AI Chatbot มาช่วยในการตอบคำถามที่มักจะพบเจอบ่อยๆ จะช่วยลดภาระงานให้กับพนักงานในการตอบคำถามได้ และทำให้มีเวลาโฟกัสกับงานอื่นๆ ได้มากยิ่งขึ้น
  • ธุรกิจค้าปลีก : ธุรกิจค้าปลีกเป็นธุรกิจที่ต้องเกี่ยวข้องกับลูกค้าเป็นจำนวนมาก อีกทั้งมักจะการจัดโปรโมชันเพื่อกระตุ้นยอดขายอยู่เสมอ ดังนั้นการนำ AI Chatbot เข้ามาใช้งานเพื่อช่วยในการตอบคำถามลูกค้าจะช่วยประหยัดเวลาในการตอบคำถามให้กับพนักงาน อีกทั้งยังสามารถช่วยให้แนะนำสินค้าที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าแบบรายบุคคลได้เช่นกัน

3. นำ AI มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

ธุรกิจสามารถนำ AI มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ในหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น การจัดการงาน การประมวลผลข้อมูลจากเอกสาร การช่วยหาข้อมูล และตอบคำถาม และการวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ โดยที่ AI นั้นจะสามารถช่วยธุรกิจให้จัดการกับงานที่ต้องทำซ้ำไปซ้ำมาให้ทำได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งช่วยให้พนักงานมีเวลาโฟกัสกับงานที่สำคัญ และสร้างสรรค์มากขึ้น 

ตัวอย่างการนำ AI มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

  • ธุรกิจทั่วไป : การนำ AI-OCR มาใช้ในการช่วยในการดึงข้อมูลจากเอกสารต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน Bank statement บัตรประชาชน และเอกสารอื่นๆ และกรอกข้อมูลที่ต้องการเข้าไปในระบบของธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาการทำงานได้เป็นอย่างมาก รวมไปถึงการนำระบบ AI-Knowledge management มาใช้ในการค้นหาข้อมูลที่ต้องการภายในองค์กร ที่จะช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูลได้เป็นอย่างดี และยังสามารถใช้ในการจัดการไฟล์ข้อมูลที่มีอยู่ภายในองค์กรให้รวบรวมไว้อยู่ในที่เดียวกันได้เช่นกัน
ตัวอย่างการนำ AI มาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

มองหาโซลูชัน AI เพื่อนำไปใช้งานในธุรกิจ

AIGEN (ไอเจ็น) ได้พัฒนาโซลูชัน AI สำหรับธุรกิจเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของธุรกิจไทยโดยเฉพาะ ด้วยความเข้าใจในกระบวนการทำงาน และ Pain point ของธุรกิจเป็นอย่างดี อีกทั้งยังพัฒนาโดยผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์การนำ AI ไปใช้ในธุรกิจโดยเฉพาะ และพร้อมให้ธุรกิจได้นำโซลูชัน AI ของเราไปใช้งานเพื่อยกระดับการทำงานของธุรกิจให้ดียิ่งขึ้นไป

หากคุณกำลังมองโซลูชัน AI สำหรับธุรกิจไปใช้งานภายในองค์กร เพื่อยกระดับขั้นตอนการทำงาน ผู้เชี่ยวชาญของเรายินดีให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การออกแบบขั้นตอนการทำงาน จนถึงการนำโซลูชัน AI ไปใช้งานให้ประสบผลสำเร็จ ติดต่อเพื่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่

AIGEN Live chat