รู้จักกับ Augmented intelligence เมื่อ AI จับมือทำงานร่วมกับมนุษย์เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด
ต่อเนื่องจากบทความ Human vs AI : AI จะมาทดแทนคนได้จริงหรือไม่? ได้มีการกล่าวถึง Augmented intelligence ซึ่งเป็นหนึ่งในเทรนด์ใหม่ที่เริ่มเป็นที่พูดถึงมากขึ้น โดยเป็นแนวคิดที่นำ AI มาทำงานร่วมกับคนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบทบาทของการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยพัฒนา และยกระดับการตัดสินใจของมนุษย์ ทำให้คนทำงานได้สะดวก และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะแตกต่างจากแนวคิดอันโด่งดังของ AI ที่ว่าคอมพิวเตอร์จะมาแทนมนุษย์ Augment intelligence ถือเป็นส่วนหนึ่งของ AI ที่มุ่งเน้นไปที่การหาวิธีให้มนุษย์ และคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องจักรสามารถทำงานร่วมกันได้ ไม่ใช่การเอาคนออกไปจากขั้นตอนการทำงานบางอย่าง ในบทความนี้ AIGEN จะพามารู้จักกับ Augmented intelligence กันให้มากยิ่งขึ้น ว่ามีวิธีการทำงานอย่างไร และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจอย่างไรได้บ้าง
![Augmented intelligence คืออะไร](https://aigencorp.com/wp-content/uploads/2023/09/what-is-sugmented-intelligence-1024x683.jpg)
Augmented intelligence คืออะไร
Augmented intelligence ถือเป็นส่วนหนึ่งของ Artificial intelligence หรือ AI ซึ่งเป็นเทคโนโลยี AI ที่จะเข้ามาช่วยเหลือคนมากกว่าที่จะมาแทนที่คน โดยการทำงานโดยทั่วไปจะใช้ Machine learning ในการวิเคราะห์ข้อมูล และช่วยให้มนุษย์สามารถตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดมากยิ่งขึ้น
Augmented intelligence ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับมนุษย์เพื่อเพิ่มความสามารถ และประสิทธิภาพในการทำงานให้กับมนุษย์ มากกว่าที่จะนำมาทดแทนมนุษย์ โดยที่ใช้ Machine learning และ Deep learning เพื่อย่อยข้อมูลที่มีอยู่อย่างมหาศาล เพื่อให้มนุษย์สามารถนำข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไปใช้ในการตัดสินใจ และดำเนินการต่อไปได้
โดยที่มนุษย์เองนั้นสามารถใช้ Augmented intelligence เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และใช้เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการทำงานได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับธุรกิจที่ต้องใช้เรื่องของ Data science และ การวิเคราะห์ข้อมูล
ตัวอย่างเช่น ในธุรกิจค้าปลีก Augmented intelligence สามารถแนะนำรูปแบบการจัดวางภายในร้านค้า และการจัดวางสินค้าที่เหมาะสมที่สุดโดยพิจารณาจากข้อมูลของลูกค้า เช่น รูปแบบการเข้ามาซื้อสินค้าของลูกค้า หรือในธุรกิจประกัน Augmented intelligence สามารถช่วยให้การอนุมัติการเคลมประกันทำได้แบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น ด้วยการนำเทคโนโลยี AI-OCR ในการดึงข้อมูลจากเอกสารต่างๆ ออกมาได้แบบอัตโนมัติ มาใช้ร่วมกับการวิเคราะห์ข้อมูลว่าการเคลมแต่ละครั้งนั้นสมเหตุสมผลหรือไม่ โดยที่หากมีเคสไหนที่ผิดปกติสามารถส่งต่อไปให้พนักงานตรวจสอบรายละเอียดเชิงลึกต่อไปได้
Augmented intelligence VS Artificial intelligence แตกต่างกันอย่างไร ?
Artificial intelligence หรือ AI นั้น มุ่งหาวิธีที่จะทำให้ขั้นตอนการทำงานทำได้แบบอัตโนมัติโดยการเจาะลึกไปในข้อมูลที่มีอยู่เพื่อให้ได้คำตอบ และดำเนินการได้แบบอัตโนมัติ ส่วน Augmented intelligence นั้นเป็นการใช้เทคโนโลยี AI แต่อยู่ในรูปแบบที่ยังมีคนเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และคนยังมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจ
เป้าหมายของเทคโนโลยี AI นั้นคือการแสดงพฤติกรรมอันชาญฉลาดที่เลียนแบบความคิดของมนุษย์ และในที่สุดสามารถที่จะทำสิ่งต่างๆ ได้แบบอัตโนมัติ และตัดสินใจได้โดยที่ไม่ต้องใช้คนเข้ามาเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตามเป้าหมายนี้นั้นยังไม่เกิดขึ้น ณ ตอนนี้
โดยที่ Augmented intelligence นั้นได้ถูกออกแบบมาเพื่อแสดงพฤติกรรมอันชาญฉลาดเช่นกัน แต่สิ่งแตกต่างที่สำคัญคือมีการทำงานร่วมกันกับมนุษย์เพื่อยกระดับขั้นตอนการทำงานที่ต้องทำให้แล้วเสร็จ หรือยกระดับการตัดสินใจนั่นเอง
ส่วน Social intelligence นั้น ถือเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนี้เช่นกัน เป็นฟีเจอร์หนึ่งของ Augmented intelligence ที่ช่วยให้เข้าใจทั้งงาน และการกระทำที่มนุษย์พยายามทำก่อนที่จะลงมือทำจริง
โดยที่ระบบ AI เองนั้นไม่จำเป็นต้องมีเรื่องของ Social intelligence เข้ามาเกี่ยวข้องมากนักเนื่องจากถูกออกแบบมาให้ทำงานแบบอัตโนมัติ แต่ในส่วนของ Augmented intelligence จำเป็นต้องมีเรื่องของ Social intelligence เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากจำเป็นต้องให้เหตุผลกับคนได้ว่าตอนนี้กำลังทำอะไรอยู่ และทำให้คนสามารถให้คำแนะนำได้ว่า Augmented intelligence ควรต้องทำอย่างไร เหมือนวิธีที่คนใช้ในการพูดคุย และสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น
![Augmented intelligence VS Artificial intelligence แตกต่างกันอย่างไร ?](https://aigencorp.com/wp-content/uploads/2023/09/ai-vs-augmented-intelligence-1024x683.jpg)
Augmented intelligence มีวิธีการทำงานอย่างไร ?
Augmented intelligence ใช้ AI และ Machine learning ในการรวบรวมข้อมูลทั้งแบบ Structured และ Unstructured จากหลายๆ แหล่ง และหลังจากนั้นจึงนำข้อมูลมาวิเคราะห์ และตีความ หรือแปลความหมายต่อไป
เนื่องจาก Augmented intelligence นั้นทำงานร่วมกับคนจึงทำให้มีจุดแข็งในเรื่องของการเห็นภาพใหญ่ของสามัญสำนึกได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ระบบ AI นั้นไม่มี เนื่องจาก AI จะเน้นการมีมุมมองในเชิงลึก และแคบจากข้อมูลที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น โปรแกรมคอมพิวเตอร์ 2 อันเล่นหมากรุกแข่งกันอาจจะพยายามเล่นให้จบเกมส์ถึงแม้ว่ากำลังมีไฟไหม้อยู่ในออฟฟิศก็ตาม ในขณะที่ถ้าคอมพิวเตอร์แข่งเล่นหมากรุกกับคน คนก็จะแนะนำให้คอมพิวเตอร์นั้นปิดตัวเองซะก่อน เนื่องจากกำลังมีไฟไหม้อยู่เป็นต้น
โดยที่ Subbarao Kambhampati อาจารย์ที่คณะ School of Computing และ Augmented Intelligence จากมหาวิทยาลัย Arizona State ประเทศสหรัฐอเมริกาได้กล่าวไว้ว่า “หากเขาต้องการอนาคตที่คนจะถูกทดแทนจริงๆ นี่คืออนาคตที่เรากำลังสร้างด้วยระบบ AI” “แต่ถ้าต้องการอนาคตที่คนสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อนั้น Augmented intelligence จะเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ”
การนำ Augmented intelligence มาใช้งาน
ความสามารถของมนุษย์สามารถพัฒนาไปได้อีกขั้นด้วย Augmented intelligence ซึ่งให้ความช่วยเหลือพิเศษ และความรู้ที่ช่วยให้คนตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น ธุรกิจการดูแลสุขภาพ ธนาคาร การให้บริการลูกค้า และการศึกษาเป็นเพียงส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมที่เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการทำงาน ความแม่นยำ และประสิทธิภาพ เครื่องมือที่ใช้ AI เป็นตัวขับเคลื่อนไม่ว่าจะเป็นแชทบอท ผู้ช่วยเสมือน และระบบให้คำแนะนำต่างนำมาใช้กับ Augmented intelligence ได้ทั้งหมด
นอกจากนั้นเทคโนโลยีนี้ยังสามารถทำให้ขั้นตอนที่ต้องทำแบบซ้ำๆ กินเวลา หรือต้องใช้ทักษะให้ทำได้แบบอัตโนมัติ ทำให้คนมีเวลาจะที่โฟกัสกับงานที่มีความท้าทาย และงานเชิงกลยุทธ์มากขึ้น การใช้วิธีดิจิทัลมาใช้กับกระบวนการตัดสินใจ และผลลัพธ์ที่ได้ยังช่วยเพิ่มความโปร่งใส และความรับผิดชอบอีกด้วย
รวมไปถึง Augmented intelligence ยังช่วยธุรกิจในการประมวลผล และวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก ค้นหาแพตเทิร์น และเทรนด์ที่จะทำให้ธุรกิจตัดสินใจได้ดีมากยิ่งขึ้น ด้วยการให้ความช่วยเหลือ และข้อมูลเชิงลึกที่สามารถยกระดับผลลัพธ์ทั้งสำหรับรายบุคคล และบริษัท จึงทำให้ Augmented intelligence มีแนวโน้มที่จะมาเปลี่ยนวิธีการทำงาน และใช้ชีวิตของเราโดยพื้นฐาน
![ตัวอย่างการนำ Augmented intelligence มาใช้งานกับธุรกิจ](https://aigencorp.com/wp-content/uploads/2023/09/augmented-intelligence-use-cases-1024x683.jpg)
ตัวอย่างการนำ Augmented intelligence มาใช้งานกับธุรกิจ
การดึงข้อมูลจากเอกสารได้อย่างอัตโนมัติมากขึ้น
งานเอกสารกับธุรกิจนั้นมาเป็นของคู่กัน ยิ่งธุรกิจเติบโตมากขึ้นเท่าไหร่จำนวนเอกสารที่ต้องจัดการก็มากขึ้นเท่านั้น โดยเทคโนโลยี AI-OCR ได้เข้ามาช่วยให้งานดึง และกรอกข้อมูลจากเอกสารเข้าไปยังระบบงานของธุรกิจนั้นทำได้แบบอัตโนมัติมากขึ้น จากเดิมที่ต้องใช้ทั้งคน และเวลาเป็นจำนวนมากในการกรอกข้อมูลเข้าไปในระบบ เปลี่ยนจากให้คนทำมาเป็นให้คนตรวจสอบข้อมูลในระบบ AI-OCR ดึงออกมาแทนว่าถูกต้องหรือไม่ ซึ่งถือเป็น Augmented intelligence ในรูปแบบหนึ่งที่ทำให้คนสามารถนำระบบ AI มาช่วยลดภาระงานรูทีน ทำให้คนมีเวลาที่จะโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์ และงานที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์ได้มากยิ่งขึ้น
ให้ธุรกิจค้าปลีกระบุจุดคอขวดของร้านค้าได้
ธุรกิจค้าปลีกเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จากการนำ Augmented intelligence ได้เป็นอย่างมาก โดยที่ Augmented intelligence จะนำไปใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และข้อมูลหน้าร้านเพื่อพัฒนาการขายทั้งแบบออนไลน์ และออฟไลน์
การนำ Augmented intelligence มาช่วยแนะนำให้ผู้ค้าปลีกต่างๆ รู้ได้ว่า bottleneck หรือจุดคอขวดนั้นเกิดขึ้นตรงจุดไหนที่อาจจะส่งผลต่อยอดขายได้ หรือควรจัดวางสินค้าอย่างไรเพื่อให้ลูกค้าเห็นมากขึ้น แต่สุดท้ายแล้วขึ้นอยู่กับคนว่าจะเปลี่ยนการบริหารจัดการภายในร้านอย่างไรเมื่อพิจารณาจากคำแนะนำของระบบ Augmented intelligence ที่ได้วิเคราะห์ และสรุปไว้ให้
แนะนำการวินิจฉัย และการรักษา
การนำ AI มาใช้กับธุรกิจการดูแลสุขภาพ (Healthcare) นั้นได้มีการพิสูจน์แล้วว่าทำได้ดี เช่นเดียวกันกับการนำ Augmented intelligence มาใช้ เนื่องจากด้วยความสามารถของ Augmented intelligence นั้นทำให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์สามารถเรียกดูข้อมูลผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็ว และได้รับข้อมูลเชิงลึก และคำแนะนำที่สามารถนำไปปฏิบัติได้จริง
รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเองที่นำทางได้อย่างปลอดภัย
รถยนต์ขับเคลื่อนด้วยตนเอง (Self-driving car) อาจฟังดูเหมือนไม่จำเป็นต้องมีมนุษย์คอยควบคุมดูแล แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้นเสมอไป ถึงแม้ว่าเป็นซอฟต์แวร์อัตโนมัติจะถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้รถยนต์ส่วนใหญ่สามารถนำทางไปตามถนนได้โดยอัตโนมัติ แต่จะมีบางเวลาที่จำเป็นต้องให้คนเข้ามาช่วยดูในสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน เช่น มีรถสวนเข้ามาในเลนส์ หรือการเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน
ต้องการนำ Augmented intelligence ไปใช้งานกับธุรกิจของคุณ
Augmented intelligence อาจจะช่วยทำให้หลายคนเบาใจไปได้บ้างว่า AI เองนั้นไม่ได้เข้ามาเพื่อที่จะทดแทนคน แต่เข้ามาช่วยส่งเสริม และเพิ่มศักยภาพการทำงานของเราให้สามารถทำงานที่ได้ใช้จุดแข็งที่เรามีได้อย่างเต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงทำให้คนมีเวลาที่จะไปพัฒนาทักษะทางด้านต่างๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย เนื่องจาก Augmented intelligence ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำงานทำให้คนทำงานได้สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำได้มากขึ้น โดย AIGEN เองได้พัฒนาโซลูชัน AI สำหรับธุรกิจขึ้นมาด้วยจุดประสงค์เพื่อจะช่วยยกระดับการทำงาน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจด้วยเครื่องมือ AI ที่จะทำให้ธุรกิจทำงานได้ง่าย และสะดวกมากยิ่งขึ้น ที่จะตอบโจทย์สภาพแวดล้อมการแข่งขันในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาโซลูชัน AI ที่จะตัวช่วยสำคัญที่ทำให้พนักงานภายในองค์กรทำงานได้ง่ายมากยิ่งขึ้น ผู้เชี่ยวชาญของเรายินดีให้คำปรึกษาตั้งแต่การวางแผน แนะนำโซลูชัน AI ที่ตอบโจทย์กับแต่ละธุรกิจ ไปจนถึงการนำโซลูชัน AI ไปใช้ให้ประสบผลสำเร็จ ติดต่อเพื่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่
![AIGEN Team](https://aigencorp.com/wp-content/uploads/2024/04/cropped-aigen-profile-100x100.png)
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน AI อัจฉริยะ พร้อมช่วยขับเคลื่อนการทำงานของธุรกิจ มีประสบการณ์ให้บริการโซลูชัน AI เพื่อองค์กรระดับประเทศมากมาย