แนะนำ 3 กลยุทธ์เด็ด! เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับธุรกิจด้วยระบบ AI-OCR
เทคโนโลยี AI-OCR ได้เข้ามาเป็นหนึ่งในเครื่องมือการทำงานสำคัญของธุรกิจยุคใหม่ ด้วยความสามารถในการประมวลผล ดึงและแปลงภาพข้อความจากในเอกสารให้อยู่ในรูปแบบที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้ ทำให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในขั้นตอนถัดไปอย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น
อีกทั้งด้วยความสามารถของ AI ที่เข้ามาช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานให้กับระบบ OCR ได้เป็นอย่างดี ลดข้อจำกัดของการทำ OCR รูปแบบเดิม ทำให้รองรับการประมวลผลรูปแบบเอกสารได้หลากหลายแบบโดยที่ไม่จำเป็นต้องสร้างเทมเพลตไว้ล่วงหน้า และสามารถจัดประเภทของข้อความ และเอกสารได้แบบอัตโนมัติ ทำให้การนำระบบ AI-OCR นั้นจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ในบทความนี้เราจะมาแนะนำ 3 กลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยปลดล็อกศักยภาพของการนำ AI-OCR ไปใช้งาน และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดี
แนะนำ 3 กลยุทธ์สำคัญในการนำ AI-OCR ไปใช้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจ
ธุรกิจยุคใหม่สามารถนำระบบ AI-OCR มาใช้งานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ และประสิทธิภาพในการทำงานได้ดังต่อไปนี้
1. การจัดการเอกสารได้แบบอัตโนมัติ
ระบบ AI-OCR ทำให้ธุรกิจสามารถจัดเก็บไฟล์เอกสารได้อย่างเป็นระบบ และสามารถดึงข้อมูลที่ต้องการจากเอกสารเพื่อไปใช้งานในขั้นตอนการทำงานถัดไปได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น ลดภาระการกรอกข้อมูลเข้าไปในระบบแบบแมนนวล ทำให้ธุรกิจสามารถนำข้อมูลไปใช้ในการประมวลผลต่อได้แบบเรียลไทม์ และช่วยประหยัดพื้นที่ และค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บเอกสารได้เป็นอย่างมาก รวมทั้งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี
โดยที่ระบบ AI-OCR นั้นรองรับได้ทั้งเอกสารที่มีรูปแบบที่แน่นอนตายตัว เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน ใบขับขี่ และเอกสารที่ไม่ได้เทมเพลตที่ตายตัว เช่น ใบเสร็จ และใบแจ้งหนี้ Payslip รวมไปถึงเอกสารเฉพาะของแต่ละธุรกิจ อีกทั้งธุรกิจยังสามารถกำหนด Data-entry workflow ที่ตอบโจทย์กับการทำงานได้เอง เพื่อให้ขั้นตอนการทำงานเป็นไปอย่างราบรื่นมากที่สุด
ตัวอย่างการนำระบบ AI-OCR ไปใช้กับการจัดการเอกสารได้แบบอัตโนมัติ
- ธุรกิจการผลิต : นำระบบ AI-OCR มาใช้ในการดึงข้อมูลที่ต้องการจากใบแจ้งหนี้ และใบเสร็จรับเงิน และกรอกข้อมูลที่ดึงออกมาได้เข้าไปในระบบได้แบบอัตโนมัติ เพื่อลดภาระงานแมนนวลให้กับหน่วยงานบัญชี และการเงิน และทำให้กระบวนการทำงานของบัญชีทำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น
- ธุรกิจพัฒนาแอปพลิเคชัน : นำระบบ AI-OCR มาใช้ในการดึงข้อมูลที่ต้องการจากแบบฟอร์มใบสมัคร บัตรประชาชน ใบขับขี่ และเอกสารอื่นๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า หรือผู้ใช้งานให้ใช้งานได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
- ธุรกิจธนาคาร และการเงิน : นำระบบ AI-OCR มาใช้ในการดึงข้อมูลจากเอกสารใบสมัครขอสินเชื่อ บัตรประชาชน Bank statement Payslip และเอกสารอื่นๆ อำนวยความสะดวกในการทำ Customer onboarding และทำให้ขั้นตอนการอนุมัติสินเชื่อทำได้อย่างสะดวก และรวดเร็วได้มากยิ่งขึ้น
2. เพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้า
ธุรกิจสามารถนำระบบ AI-OCR มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการลูกค้าได้เช่นกัน ด้วยการนำ AI-OCR มาช่วยประมวลผล และดึงข้อมูลจากเอกสารประเภทต่างๆ ทำให้ได้เป็นข้อมูลเชิงลึก (Insights) เพื่อนำไปใช้ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ และบริการให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้ดีมากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการนำระบบ AI-OCR ไปใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการลูกค้า
- ธุรกิจการเงิน และธนาคาร : ธนาคาร และสถาบันการเงินได้นำระบบ AI-OCR มาใช้ทั้งในขั้นตอนการทำ Customer onboarding ในการดึงข้อมูลจากบัตรประชาชน เพื่อนำไปใช้ในการยืนยันตัวตนให้เสร็จสมบูรณ์ได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมทั้งได้นำระบบ AI-OCR ไปใช้ในการอ่าน Bank statement ของลูกค้า เพื่อช่วยสรุปข้อมูลที่จำเป็นที่ต้องใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อให้ทำได้อย่างสะดวก และรวดเร็วได้มากยิ่งขึ้น
- ธุรกิจค้าปลีก : นำระบบ AI-OCR มาใช้ในการดึงข้อมูลจากใบเสร็จรับเงิน และนำมาบันทึกข้อมูลไว้ในระบบ CRM Loyalty program เพื่อนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อมูลต่อ และนำเสนอสินค้า และโปรโมชันที่โดนใจกับลูกค้าแต่ละรายได้ดีมากยิ่งขึ้น
3. ขยายโอกาสทางธุรกิจ
ระบบ AI-OCR สามารถช่วยขยายโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้เช่นกัน ด้วยการทำให้ธุรกิจรองรับกับปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มมากขึ้นได้โดยที่ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทรัพยากร หรือเพิ่มในปริมาณที่ไม่มากนัก เนื่องจากระบบ AI-OCR ช่วยลดภาระงานแมนนวล และทำให้ขั้นตอนการทำงานบางอย่าง เช่น ขั้นตอนการดึง และประมวลผลข้อมูลจากเอกสารทำได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากขึ้น
ตัวอย่างการนำระบบ AI-OCR ไปใช้ในการขยายโอกาสทางธุรกิจ
- ธุรกิจประกัน : สามารถนำระบบ AI-OCR มาใช้เพื่อวิเคราะห์เอกสารการเคลมที่ลูกค้าส่งเข้ามาผ่านทางเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน ทำให้ขั้นตอนอนุมัติการเคลมสามารถทำได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น และทำให้ลูกค้าได้รับค่าชดเชยสินไหมได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงยังสามารถนำ AI-OCR มาใช้ในการวิเคราะห์ความเสี่ยง และพัฒนาแผนประกันใหม่ๆ ได้ด้วยเช่นกัน
- ธุรกิจผู้ให้บริการสินเชื่อออนไลน์ : จากเดิมที่ลูกค้าจะต้องเดินทางไปที่สาขาของสถาบันการเงินเพื่อยื่นเอกสารประกอบการขอสินเชื่อ เปลี่ยนมาเป็นให้ลูกค้าสมัครยื่นขอสินเชื่อผ่านทางแอปพลิเคชัน และยื่นเอกสารประกอบผ่านทางแอปพลิเคชัน หลังจากนั้นนำระบบ AI-OCR มาใช้ในการดึงข้อมูลที่ต้องการจากเอกสารที่ลูกค้ายื่นเข้ามา และนำข้อมูลไปวิเคราะห์การอนุมัติสินเชื่อต่อไป ทำให้สถาบันการเงินสามารถอนุมัติสินเชื่อได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น
วิธีการนำระบบ AI-OCR ไปใช้งานกับธุรกิจ
ธุรกิจสามารถนำระบบ AI-OCR ไปใช้งานได้ทั้งแบบผ่าน AIGEN Web portal และผ่านบริการ OCR API ซึ่งเปิดให้ธุรกิจทดลองใช้งานฟรี 300 transactions อีกทั้งยังรองรับเอกสารได้มากกว่า 20 ประเภท โดยวิธีการเข้าใช้งานบริการ AI-OCR สามารถทำได้ดังต่อไปนี้
วิธีการใช้งานผ่าน AIGEN Web portal
- สมัครเข้าใช้บริการ AIGEN Web portal ได้ผ่าน LINK
- ทำการยืนยันอีเมลที่ได้ทำการลงทะเบียนไว้ (หากไม่เจอ Sender name : AIGEN Web Portal ใน Inbox ให้เช็คใน Junk mail)
- กรอกข้อมูลให้ครบตามที่ระบบกำหนดไว้ เพื่อเข้าใช้งานบริการ AI-OCR
- เลือกบริการ aiScript เพื่อใช้งานระบบ AI-OCR
- เลือกประเภทเอกสาร และอัปโหลดไฟล์เอกสาร (PDF, JPG, TIFF, PNG) ขนาดไม่เกิน 10 MB ที่ต้องการทำ AI-OCR เข้าไปในระบบ พร้อมทั้งเลือกไฟล์ format ที่ต้องการ export ออกมา
วิธีการใช้งานผ่าน OCR API
- Sign up หรือ Log in เพื่อเข้าใช้งาน AIGEN Web portal
- เลือกเมนู API Key ด้านบน
- เลือกเมนู Resources ด้านบน เพื่ออ่านรายละเอียดวิธีการนำ OCR API Key ไปใช้งาน
- เมื่อเข้ามาในหน้า API Documentation แล้ว ให้คลิกเมนู aiScript ในแทบด้านซ้ายมือ และเลือกประเภทเอกสารที่ต้องการทำ OCR เพื่อดูรายละเอียดการนำ API ไปใช้งาน
- หากมีคำถามทางเทคนิคสามารถกดปุ่ม Support ด้านบน เพื่อสอบถามกับทีมเทคนิค
ต้องการนำซอฟต์แวร์ AI-OCR ไปใช้งานกับธุรกิจ
AIGEN ได้พัฒนา aiScript บริการ AI-Powered OCR ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพขั้นตอนการทำ Data-entry ให้กับธุรกิจ ด้วยความสามารถในการดึง และประมวลผลเอกสารได้อย่างแม่นยำ รวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติ ช่วยลดภาระการกรอกข้อมูลเข้าไปในระบบแบบแมนนวลได้เป็นอย่างดี ทำให้พนักงานมีเวลาโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์ และความคิดสร้างสรรค์ได้มากยิ่งขึ้น
aiScript มาพร้อมกับฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์กับการทำงานของธุรกิจได้เป็นอย่างดี โดยรองรับเอกสารได้มากกว่า 20 ประเภท ทั้งเอกสารภาษาไทย และภาษาอังกฤษ รวมทั้งยังรองรับข้อจำกัดของเอกสารได้เป็นอย่างดี แม้เอกสารจะเอียง หรือเบี้ยวก็ยังสามารถประมวลผลได้ อีกทั้งยังรองรับการทำ Data-entry workflow automation ที่ทำให้การทำงานทำได้แบบอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ที่ต้องการนำข้อมูลไปใช้งานต่อได้แบบเรียลไทม์
หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาซอฟต์แวร์ AI-OCR ไปใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับขั้นตอนการทำงานได้มากยิ่งขึ้น ผู้เชี่ยวชาญของเรายินดีให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การออกแบบขั้นตอนการทำงาน จนถึงการนำระบบ AI-OCR ไปใช้งานให้ประสบผลสำเร็จ ติดต่อเพื่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่
CEO บริษัท ไอเจ็น จำกัด-ผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และ Machine learning ทั้งในไทยและต่างประเทศมามากกว่า 10 ปี