AI Transformation การเปลี่ยนผ่านสำหรับธุรกิจยุค 5.0
AI ไม่ได้เป็นแค่เทรนด์ แต่คือพลังขับเคลื่อนที่กำลังเปลี่ยนโฉมธุรกิจในทุกอุตสาหกรรม ตั้งแต่การทำงานภายในองค์กร ไปจนถึงการสร้างโอกาสใหม่ในการเติบโต หากองค์กรของคุณยังไม่เริ่มใช้ AI วันนี้ อาจพลาดโอกาสสำคัญและทำให้คู่แข่งก้าวนำไปข้างหน้า บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับการใช้ AI Transformation และวิธีนำมาปรับเข้ากับกระบวนการต่าง ๆ สำหรับธุรกิจเพื่อสร้างความแตกต่างให้กับองค์กรของคุณ

กลยุทธ์ AI Transformation คืออะไร ?
AI Transformation คือการเปลี่ยนแปลงเชิงกลยุทธ์ที่นำเทคโนโลยี AI และ Machine Learning เข้ามาผสานกับกระบวนการทำงาน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพ เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ โดยทั่วไปขั้นตอนการทำ AI Transformation จะใช้เวลาประมาณ 2-3 ปี สำหรับธุรกิจที่นำ AI เข้ามาปรับใช้ได้ก่อนจะเริ่มเห็นผลตอบแทนจากการลงทุนในช่วง 6-12 เดือนเป็นต้นไป ส่วนองค์กรไหนที่ยังปรับตัวไม่ทัน จะทำให้ตามหลังคู่แข่งและอาจถูกทิ้งห่างในอุตสาหกรรมเดียวกัน
Key Point: การใช้ AI Transformation เป็นหนึ่งในโซลูชันสำหรับธุรกิจยุคดิจิทัล ที่ช่วยสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้อย่างชัดเจน เพราะช่วยให้ธุรกิจทำงานได้อย่างรวดเร็ว แม่นยำ และสร้างคุณค่าในระยะยาว พร้อมเปิดโอกาสให้พนักงานโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์ หรือตัดสินใจบนข้อมูลเชิงลึก เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีขึ้นแก่ลูกค้าได้อย่างยั่งยืน
ประโยชน์ของการทำ AI Transformation
AI Transformation ช่วยให้ธุรกิจมีความคล่องตัว มีประสิทธิภาพ และได้ริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ โดยประโยชน์จากการทำ AI Transformation มีดังต่อไปนี้
- เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน: ระบบ AI เข้ามาช่วยให้หน้าที่งานบางอย่างทำได้แบบอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น ทำให้พนักงานมีเวลาโฟกัสกับงานที่สร้างคุณค่าให้กับธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
- ยกระดับการตัดสินใจ: การนำ AI เข้ามาใช้งานทำให้ธุรกิจได้ข้อมูลเชิงลึก (Insight) และคำแนะนำที่ช่วยสนับสนุนการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ และขั้นตอนการทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
- ยกระดับการให้บริการลูกค้า: AI ทำให้ธุรกิจสามารถให้บริการได้แบบรายบุคคล และตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้นโดยใช้ข้อมูลที่มีอยู่
- โอกาสในการสร้างรายได้ใหม่: AI เปิดโอกาสให้ธุรกิจสามารถพัฒนาสินค้า บริการ และโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะสร้างรายได้ส่วนเพิ่มให้กับธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
ตัวอย่างการใช้ AI Transformation ในภาคธุรกิจ
- AI Chatbot สำหรับการให้บริการลูกค้าได้ในเบื้องต้นตลอด 24 ชั่วโมง
- การนำ AI-OCR มาใช้สำหรับขั้นตอนการทำ Data-entry ได้แบบอัตโนมัติ เพื่อประหยัดเวลา และลดข้อผิดพลาด
- การนำ Image recognition เข้ามาใช้เพื่อตรวจจับสินค้าที่มีตำหนิในไลน์การผลิต
- การนำ Predictive analytics หรือการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์มาใช้เพื่อคาดการณ์ความต้องการของลูกค้า และเพิ่มประสิทธิภาพการจัดการสินค้าคงคลัง
- ระบบแนะนำสินค้าและบริการสำหรับลูกค้าแต่ละราย เพื่อเพิ่มยอดขาย และ Customer loyalty
Highlight: กุญแจสู่ความสำเร็จของการใช้ AI Transformation
การนำ AI เข้ามาปรับใช้ในธุรกิจ ต้องเริ่มจากการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน จากนั้นเลือกขั้นตอนการทำงานของ AI เพื่อส่งเสริมกระบวนการภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมเทรนพนักงานให้เข้าใจระบบ และเปิดพื้นที่พูดคุยเพื่อลดความกังวล สู่การทดสอบและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ก็จะช่วยให้ธุรกิจได้รับประโยชน์สูงสุดจาก AI และขยายการใช้งานได้ทั่วทั้งองค์กร
5 ขั้นตอนการทำ AI Transformation สำหรับธุรกิจ
AI Transformation Playbook จาก Landing AI ที่เขียนโดย Andrew NG ผู้ก่อตั้งบริษัท และผู้เชี่ยวชาญด้าน AI และ Machine learning ระดับโลก ได้แนะนำถึง 5 ขั้นตอนในการนำ AI Transformation ไปใช้งานกับธุรกิจ โดยมีรายละเอียดโดยสรุปดังต่อไปนี้
1. เริ่มต้นจากโปรเจกต์นำร่อง สร้างแรงผลักดัน
การทำ AI Transformation ไม่จำเป็นต้องเริ่มจากโปรเจกต์ใหญ่ มูลค่าสูงเสมอไป แต่สิ่งสำคัญคือการเลือกโปรเจกต์นำร่องที่สร้างผลลัพธ์ได้จริงภายใน 6–12 เดือน และช่วยให้ธุรกิจได้คุ้นเคยกับการใช้งาน AI พร้อมจูงใจให้หน่วยงานอื่น ๆ ให้หันมาเห็นประโยชน์ของการใช้ AI Transformation ในธุรกิจ
ลักษณะของโปรเจกต์ AI นำร่องที่ดี
- เป็นโปรเจกต์ที่เปิดโอกาสให้ทีมภายในองค์กรได้ทำงานร่วมกับผู้ให้บริการ AI หรือ AI Vendor ภายนอก และร่วมกันพัฒนาโซลูชัน AI ได้ภายใน 6-12 เดือน
- โปรเจกต์ต้องมีความเป็นไปได้จริง โดยควรมีทีมเทคนิคช่วยตรวจสอบศักยภาพของ AI ก่อนเริ่ม เพื่อให้มั่นใจว่าจะสามารถดำเนินการต่อได้
- มีการกำหนดวัตถุประสงค์ และมาตรวัดความสำเร็จในเชิงธุรกิจของโปรเจกต์ไว้อย่างชัดเจน
2. สร้างทีมผู้เชี่ยวชาญ AI ภายในองค์กร
แม้จะสามารถพึ่งผู้เชี่ยวชาญภายนอกได้ แต่ในระยะยาว การมีทีม AI ภายในจะทำให้ธุรกิจควบคุมทิศทางได้ดีกว่าเดิม โดยทีมผู้เชี่ยวชาญ AI อาจสังกัดอยู่ภายใต้ CTO, CIO หรือ CDO (Chief Data Officer หรือ Chief Digital Officer) หรืออยู่ภายใต้ CAIO (Chief AI Officer) ได้เช่นกัน และทำงานร่วมกับทุกฝ่ายในองค์กร แต่ถ้าเป็นธุรกิจที่ยังไม่มีทรัพยากรเพียงพอ การใช้บริการ AI ที่พัฒนาโซลูชัน AI สำเร็จรูปที่พร้อมใช้งาน หรือที่เรียกกันว่า AI-as-a-Service ก็เป็นอีกทางเลือกที่ช่วยลดต้นทุนและทำให้การใช้ AI Transformation เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
อ่านบทความ โซลูชัน AI ธุรกิจควรพัฒนาเอง หรือจ้างบริษัทผู้เชี่ยวชาญ เพิ่มเติม

3. จัดอบรมความรู้ด้าน AI ให้ครอบคลุม
เพราะ AI เป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายองค์กร การอบรมพนักงานจึงเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม ธุรกิจสามารถสนับสนุนการเรียนในรูปแบบ MOOCs (Massive Open Online Courses) โดยใช้คอร์สออนไลน์จากCoursera Udemy และ Youtube มาช่วย Upskill ด้าน AI ให้กับพนักงาน เพื่อที่ได้เข้าใจพื้นฐานและวิธีการทำงานได้อย่างถ่องแท้ นอกจากนี้ การจัดอบรมภายในองค์กรโดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้าน AI ยังจะช่วยให้ทุกคนเข้าใจและใช้เทคโนโลยีได้อย่างมั่นใจมากขึ้น
สำหรับองค์กรที่มีนโยบายการทำ AI Transformation สำหรับธุรกิจ และต้องการจัดอบรมให้แก่พนักงาน ตั้งแต่กลุ่มผู้บริหารระดับกลางหรือสูง ไปจนถึงพนักงานทั่วไป AIGEN ก็มีบริการ In-house training อย่างคอร์ส AI For Business ให้กับภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ ที่ต้องการสร้างความเข้าใจในการนำ AI ไปใช้งานกับธุรกิจเช่นกัน
นอกจากนี้ เรายังมีคอร์สออนไลน์ และ BootCAMP ด้าน AI และ Machine learning สำหรับธุรกิจที่สนใจ และต้องการให้พนักงานมาเรียนเพื่อสร้างความเข้าใจพื้นฐานและวิธีการทำงานของ AI มากขึ้น สามารถสอบถามหรือศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย
4. พัฒนากลยุทธ์ AI ให้ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจ
เมื่อมีโปรเจกต์นำร่องและทีมงานมีความเข้าใจ AI เพียงพอแล้ว ขั้นต่อมาคือการพัฒนากลยุทธ์ AI ที่สอดคล้องกับเป้าหมายธุรกิจ กลยุทธ์นี้ควรเน้นไปที่การสร้างคุณค่าและประโยชน์ของ AI Transformation เช่น ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อพัฒนาประสบการณ์ลูกค้า หรือใช้ AI ตรวจสอบและอนุมัติสินเชื่ออัตโนมัติในธุรกิจการเงิน
3 สิ่งที่ธุรกิจควรคำนึงถึงระหว่างการพัฒนากลยุทธ์ด้าน AI
- การพัฒนาสินทรัพย์ด้าน AI ที่เลียนแบบได้ยาก
- ความสอดคล้องกับกลยุทธ์ของธุรกิจที่จะสร้างจุดขายที่แตกต่างให้กับธุรกิจได้
- การนำความสามารถของ AI มาพัฒนาเป็น Use case เฉพาะของอุตสาหกรรมของธุรกิจ
5. พัฒนากลยุทธ์ AI ให้ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจ
AI Transformation ไม่ได้ส่งผลกระทบถึงกระบวนการทำงานเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับคนทุกฝ่ายในองค์กร การสื่อสารจึงมีความสำคัญมาก และควรกระจายให้ทั่วถึงตั้งแต่ระดับพนักงาน นักลงทุน ลูกค้า ไปจนถึงภาครัฐ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน และมองเห็นทิศทางเดียวกันว่าการใช้ AI Transformation สำหรับธุรกิจจะนำไปสู่การเติบโตอย่างไร โดยควรอธิบายอย่างชัดเจน พร้อมกับชี้แจงถึงเป้าหมายและผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม
ตัวอย่าง Use case ของธุรกิจที่ทำ AI Transformation
1. ธุรกิจการเงิน
ธุรกิจการเงินเป็นหนึ่งในกลุ่มแรกที่นำการใช้ AI Transformation มาประยุกต์ในกระบวนต่าง ๆ ของธุรกิจ เพราะต้องปรับตัวให้ทันกับเทคโนโลยีและความต้องการลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ตัวอย่างที่เห็นได้อย่างชัดเจน เช่น
- AI-Chatbot สำหรับให้ข้อมูลและจัดการธุรกรรมเบื้องต้นกับลูกค้า
- AI-OCR ที่ช่วยดึงข้อมูลจากเอกสารและใช้งานได้แบบเรียลไทม์
นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนา AI สำหรับการทำธุรกิจสินเชื่อ (Digital Lending) ที่ใช้ AI ประมวลผล Bank Statement และข้อมูลลูกค้าอื่น ๆ เพื่อตัดสินใจอนุมัติสินเชื่อโดยอัตโนมัติ ช่วยลดงานเอกสารของพนักงาน และที่สำคัญลูกค้าจะรู้ผลการอนุมัติที่เร็วขึ้น ซึ่งถือเป็นหนึ่งในประโยชน์ของ AI Transformation ที่ตอบโจทย์ทั้งองค์กรและผู้ใช้บริการ
2. ธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์
ในโลกของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ การใช้ AI Transformation สำหรับธุรกิจ คือโอกาสในการเพิ่มความเร็วและคุณภาพของการทำงาน ซึ่งในปัจจุบัน Software Developer สามารถเพิ่มฟีเจอร์ AI ให้กับซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชันได้อย่างง่ายดายผ่านทาง AI API Documentation ซึ่งนอกจากความสะดวกด้านการทำงานแล้ว ยังคงให้ประโยชน์อีกมากมาย อาทิ
- ช่วยลดเวลาการพัฒนาโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ใหม่ ๆ
- สามารถเปิดตัวและปล่อยซอฟต์แวร์ออกสู่ตลาดได้เร็วขึ้น
- มีเวลาโฟกัสกับฟีเจอร์หลักที่สร้างความแตกต่างให้กับซอฟต์แวร์
จะเห็นได้ว่า ประโยชน์ของการทำ AI Transformation สร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ในหลากหลายด้าน แต่การทำงานที่มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ก็ยังคงต้องพึ่งพามนุษย์เข้ามาเป็นองค์ประกอบสำคัญ เพื่อช่วยผลักดันให้ทีมงานมีโอกาสสร้างนวัตกรรมใหม่ได้มากขึ้นนั่นเอง
3. หน่วยงานภาครัฐ
หลายหน่วยงานภาครัฐเริ่มมองหาขั้นตอนการทำ AI Transformation เพื่อเพิ่มความโปร่งใสและลดความซับซ้อนของงาน โดยส่วนมากจะเริ่มจาก Use case เล็ก ๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยภายในหน่วยงาน ยกตัวอย่างเช่น
- การใช้ AI ตรวจจับความผิดปกติของธุรกรรม (Anomaly Detection)
- กรมสรรพากรนำ AI มาช่วยตรวจจับการโกงภาษี
- ใช้ AI ในการตรวจสอบข้อมูลประกันสุขภาพ โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)
4. อุตสาหกรรมสุขภาพ
ในธุรกิจด้านสุขภาพก็มีการใช้ AI Transformation เข้ามาช่วยเสริมการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเริ่มปรับให้เข้ามามีบทบาทในการดำเนินงานสำคัญต่าง ๆ ตั้งแต่ขั้นตอนการจัดการเอกสารของคนไข้ ตลอดจนการวินิจฉัยโรคที่มาช่วยเพิ่มความแม่นยำ และศักยภาพด้านการรักษาให้ก้าวไกลยิ่งกว่าเดิม ยกตัวอย่างเช่น
- การวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ (X-ray, MRI) เพื่อช่วยแพทย์วินิจฉัยโรคได้แม่นยำยิ่งขึ้น
- การพยากรณ์การเกิดโรคหรือภาวะแทรกซ้อนล่วงหน้า เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสรักษาได้ทันท่วงที
นี่คือตัวอย่าง AI Transformation ที่ไม่เพียงช่วยแพทย์ให้ตัดสินใจได้เร็วขึ้น แต่ยังช่วยชีวิตคนไข้และยกระดับคุณภาพบริการด้านสุขภาพในองค์รวมได้อย่างยั่งยืน
5. อุตสาหกรรมการผลิต
อุตสาหกรรมการผลิต ถือเป็นหนึ่งในภาคธุรกิจที่ได้รับประโยชน์จากการใช้ AI Transformation โดยตรง เพราะการผลิตมักเกี่ยวข้องกับด้านต้นทุน กำลังการผลิตขนาดใหญ่ และความแม่นยำที่ต้องควบคุมอย่างเข้มงวด การนำ AI เข้ามาจึงช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความสูญเสีย และเพิ่มคุณภาพของสินค้าให้ตอบโจทย์ตลาดได้ดียิ่งขึ้น ยกตัวอย่างเช่น
- การจัดการคลังสินค้าอัตโนมัติ ทำให้ควบคุมสต๊อกได้แม่นยำ ลดปัญหาของขาดหรือเกินจนล้นสต๊อก
- การควบคุมคุณภาพสินค้า (Quality Control) โดยใช้ AI ตรวจจับข้อบกพร่องที่สายตาคนไม่ทันสังเกต
- การพยากรณ์การบำรุงรักษาเครื่องจักร (Predictive Maintenance) ช่วยลดการหยุดชะงักของสายการผลิต
ตัวอย่างอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ได้ยกมา สะท้อนให้เห็นว่า การใช้ AI Transformation สำหรับธุรกิจหรือองค์กรรัฐ ไม่ได้เป็นเพียงการเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ยังสามารถสร้างความน่าเชื่อถือและยกระดับการบริการประชาชนได้อย่างแท้จริง

แนวโน้มของ AI Transformation ในอนาคต
อนาคตของการใช้ AI Transformation คือการผสานเข้ากับทุกมิติของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานอัตโนมัติเต็มรูปแบบ การใช้ Generative AI สร้างนวัตกรรมใหม่ หรือการใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อคาดการณ์ความต้องการของลูกค้าได้แม่นยำยิ่งขึ้น ธุรกิจที่ปรับตัวเร็วและนำ AI เข้ามาใช้อย่างเป็นระบบ จะสามารถสร้างความแตกต่างและก้าวนำหน้าคู่แข่งได้อย่างยั่งยืน
สร้างกลยุทธ์ AI Transformation ที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจของคุณกับ AIGEN
ธุรกิจในทุกวันนี้ไม่ได้หยุดแค่ Digital Transformation แต่กำลังก้าวเข้าสู่ยุค AI Transformation ที่ช่วยยกระดับการทำงาน สร้างความแตกต่าง และเพิ่มศักยภาพให้ธุรกิจเติบโตเหนือคู่แข่ง
หากคุณกำลังมองหาวิธีนำ AI Transformation ไปใช้สำหรับธุรกิจ ทีมผู้เชี่ยวชาญ AIGEN พร้อมให้คำปรึกษา ครบตั้งแต่การวางแผน ออกแบบ ไปจนถึงการนำ AI มาใช้จริง และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้นก้าวสำคัญสู่อนาคตได้ที่นี่
คำถามที่พบบ่อย (FAQ)
Q: ธุรกิจต้องทำอย่างไรในการเริ่มต้น AI Transformation ?
A: เริ่มจากการทำโปรเจกต์นำร่องเล็ก ๆ เพื่อสร้างความเข้าใจและเห็นผลลัพธ์จริง จากนั้นค่อยขยายสู่ขั้นตอนการทำ AI Transformation ในระดับกลยุทธ์ เช่น การสร้างทีม AI ภายในองค์กร การอบรมบุคลากร และการกำหนดเป้าหมายทางธุรกิจที่ชัดเจน
Q: AI Transformation มีประโยชน์อย่างไรในการทำงานในธุรกิจ ?
ประโยชน์ของ AI Transformation ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจ และยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ช่วยให้ธุรกิจสามารถแข่งขันได้ในระยะยาว
Q: มีตัวอย่างธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจากการใช้ AI หรือไม่ ?
มีหลายตัวอย่างการใช้ AI Transformation ที่เกิดขึ้นจริงในธุรกิจปัจจุบัน เช่น ธนาคารที่ใช้ AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่ออนุมัติสินเชื่อได้เร็วขึ้น บริษัทซอฟต์แวร์ที่ใช้ AI API ลดเวลาพัฒนาโปรแกรม หรือหน่วยงานรัฐที่ใช้ AI ตรวจจับการโกงภาษี ซึ่งล้วนแสดงให้เห็นถึงผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม
Q: AI Transformation กับ Digital Transformation แตกต่างกันอย่างไร ?
Digital Transformation คือการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในธุรกิจโดยรวม ส่วน AI Transformation คือการต่อยอดด้วย AI เพื่อสร้างความแตกต่างเชิงกลยุทธ์ เช่น การทำงานอัตโนมัติ การวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง และการสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ
Q: AI Transformation สามารถลดต้นทุนในธุรกิจได้จริงหรือไม่ ?
ลดได้จริง เพราะการใช้ AI Transformation สำหรับธุรกิจเป็นการช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงาน ลดความผิดพลาดในการทำงาน และทำให้การใช้ทรัพยากรมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมทั้งสร้างโอกาสรายได้ใหม่ไปพร้อมกัน

ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน AI อัจฉริยะ พร้อมช่วยขับเคลื่อนการทำงานของธุรกิจ มีประสบการณ์ให้บริการโซลูชัน AI เพื่อองค์กรระดับประเทศมากมาย