6 วิธีเลือกใช้โปรแกรม OCR ให้ตอบโจทย์กับธุรกิจ
เทคโนโลยี OCR เป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่เข้ามามีบทบาทสำคัญสำหรับการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน เนื่องจากได้เข้ามาทำให้การดึง และกรอกข้อมูลจากเอกสารทำได้อย่างสะดวก และรวดเร็วได้มากยิ่งขึ้นจากแต่เดิมที่ต้องใช้ระบบแมนนวล หรือคนในการกรอกข้อมูล อีกทั้งด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้ OCR ได้พัฒนาไปมากกว่าเดิมด้วยการนำเทคโนโลยี AI มาช่วยยกระดับการทำงานของ OCR ให้ตอบโจทย์ธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น หรือที่รู้จักกันในชื่อว่า AI-Powered OCR ทำให้ไม่จำเป็นต้องสร้างเทมเพลตเอกสารไว้ล่วงหน้า ซึ่งช่วยประหยัดเวลาการทำงานไปได้มาก และรองรับเอกสารทางธุรกิจได้หลากหลายประเภทโดยเฉพาะเอกสารที่ไม่ได้มีรูปแบบตายตัว อย่างเช่น ใบเสร็จ และใบแจ้งหนี้ ซึ่งทุกธุรกิจล้วนแต่ต้องใช้เอกสารประเภทเหล่านี้กันทั้งสิ้น
แล้วหากธุรกิจต้องการจะนำโปรแกรม OCR มาใช้งานจะมีวิธีการเลือกอย่างไรเพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจให้ได้มากที่สุด วันนี้ AIGEN มีคำตอบให้ในบทความนี้
OCR คืออะไร
OCR ย่อมาจาก Optical character recognition เป็นเทคโนโลยีที่ทำให้ซอฟต์แวร์สามารถที่จะจดจำ และดึงข้อความออกมาจากรูปภาพ และเอกสารต่างๆ ได้ ในมุมมองของธุรกิจเองนั้นสามารถนำเทคโนโลยี OCR มาใช้งานในการทำให้การจัดการข้อมูลจากเอกสารอยู่ในรูปแบบดิจิทัล ดึงข้อมูลที่ต้องการจากเอกสารประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ และอื่นๆ และทำให้ขั้นตอนการกรอกข้อมูลเข้าไปในระบบ หรือ Data-entry ทำได้แบบอัตโนมัติ โดยที่โปรแกรม OCR จะช่วยลดเวลาการทำงานได้อย่างมหาศาล ประหยัดจำนวนคนที่ต้องใช้ในการกรอกข้อมูล ลดความผิดพลาดของข้อมูล และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้เป็นอย่างดี
การนำโปรแกรม OCR ไปใช้งานกับธุรกิจ
ธุรกิจสามารถนำโปรแกรม OCR ไปใช้ได้ในหลากหลายรูปแบบที่ช่วยยกระดับขั้นตอนการทำงานให้มีประสิทธิภาพ และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น
1. แปลงเอกสารให้เป็นแบบดิจิทัล
ธุรกิจสามารถใช้โปรแกรม OCR ในการสแกน และเปลี่ยนจากเอกสาร Hard copy ให้เป็นไฟล์ดิจิทัลได้ เช่น ไฟล์ PDF หรือ ไฟล์ Word ซึ่งจะทำให้ธุรกิจสามารถจัดเก็บ ค้นหา และแชร์เอกสารได้ผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์
2. กรอกข้อมูลแบบอัตโนมัติ
ธุรกิจสามารถนำ OCR มาใช้ในการดึงข้อมูลจากเอกสารได้แบบอัตโนมัติไม่ว่าจะเป็นจากใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน บัตรประชาชน และเอกสารประเภทอื่นๆ และกรอกข้อมูลเข้าไปใน Spreadsheet หรือฐานข้อมูลของธุรกิจได้แบบอัตโนมัติ ซึ่งช่วยประหยัดเวลา และลดความเสี่ยงจากความผิดพลาดในการกรอกข้อมูลแบบแมนนวลได้เป็นอย่างดี
3. ประมวลผลใบแจ้งหนี้
OCR ยังสามารถใช้ในการดึง และประมวลผลข้อมูลที่ต้องการจากใบแจ้งหนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลผู้ขาย จำนวนเงินสุทธิ และวันครบกำหนดจ่ายเงิน เพื่อกรอกข้อมูลเข้าในระบบบัญชีได้แบบอัตโนมัติ
4. ยกระดับการค้นหา และดึงข้อมูลจากเอกสาร
ธุรกิจสามารถนำ OCR มาใช้เพื่อสร้างเป็นไฟล์ PDF ที่ใช้ในการค้นหาข้อมูลได้ หรือเพิ่มแท็กข้อความให้กับรูปภาพ ทำให้ค้นหา และดึงข้อมูลที่ต้องการจากไฟล์ PDF หรือไฟล์รูปภาพได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
5. ยกระดับการให้บริการลูกค้า
OCR สามารถที่จะดึงข้อมูลจากอีเมลของลูกค้า เช่น หมายเลขคำสั่งซื้อ และที่อยู่ในการจัดส่งสินค้า และกรอกข้อมูลเข้าในฐานลูกค้าได้แบบอัตโนมัติ ทำให้ธุรกิจสามารถที่จะตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
6. การตรวจสอบทางกฎหมาย
OCR สามารถที่จะดึงข้อมูลจากสัญญา และเอกสารทางกฎหมายอื่นๆ เช่น หัวเรื่อง และเงื่อนไข เพื่อสร้างเป็นบทสรุป หรือแจ้งเตือนสำหรับทีมกฎหมาย
6 วิธีการเลือกใช้โปรแกรม OCR ให้ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจ
แต่ธุรกิจย่อมมีโจทย์ ความต้องการ และวัตถุประสงค์การนำโปรแกรม OCR ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นการเลือกระบบ OCR ไปใช้งานจึงขึ้นอยู่กับโจทย์ของแต่ละธุรกิจเป็นสำคัญ แต่โดยพื้นฐานแล้วจะมี 6 ปัจจัยสำคัญที่ธุรกิจนั้นสามารถใช้ในการพิจารณาเลือกใช้โปรแกรม OCR ได้ เพราะปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ระบบ OCR ควรจะต้องทำได้ เพื่อตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจ
1. ความแม่นยำ
แน่นอนว่าความแม่นยำเป็นปัจจัยแรกที่ธุรกิจมักจะนำมาใช้ในการพิจารณาเลือกใช้โปรแกรม OCR ซึ่งในปัจจุบันเองนั้นธุรกิจสามารถทดสอบความแม่นยำของผู้ให้บริการ OCR แต่ละเจ้าได้ด้วยตัวเองผ่านทางระบบ Web portal หรือผ่านทางการทำ POC เพื่อเป็นการทดสอบว่าเอกสารที่ต้องการทำ OCR นั้นความแม่นยำผ่านเกณฑ์มาตรฐานที่ธุรกิจได้กำหนดไว้หรือไม่
รวมทั้งมีระบบ Support อื่นๆ ที่ทำให้ขั้นตอนการทำงานของธุรกิจสะดวก และง่ายขึ้นหรือไม่ เช่น มีระบบที่ให้ผู้ใช้งานสามารถเข้ามาตรวจสอบหลังจากที่ได้ทำการ OCR แล้ว เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบข้อมูลได้ก่อน ก่อนที่จะส่งข้อมูลเข้าไปในระบบ เป็นต้น แต่ก็ต้องบอกไว้ตรงนี้เลยว่าความแม่นยำนั้นไม่มีเจ้าไหนที่ทำได้ 100% อย่างแน่นอน เพราะ AI เองนั้นก็ไม่ได้เพอร์เฟคเหมือนกับมนุษย์ ซึ่งมนุษย์เองนั้นยังต้องมีการเทรนโมเดล AI อย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาให้โมเดล AI นั้นเก่ง และอ่านข้อมูลได้อย่างแม่นยำมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง
2. ฟีเจอร์การใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจ
แน่นอนว่าแต่ละธุรกิจย่อมมีสิ่งที่ต้องการจากโปรแกรม OCR ที่อาจจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ และโจทย์ของการนำ OCR มาใช้งานของธุรกิจ แต่การพิจารณานำระบบ OCR มาใช้งานนั้นจะมีฟีเจอร์ OCR ที่จำเป็นต้องมีเพื่อให้ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจได้อย่างราบรื่นที่ธุรกิจควรคำนึงถึง ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการจัดประเภทของข้อความได้แบบอัตโนมัติว่าข้อความนี้เป็นชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เป็นต้น โดยถ้าหากเป็นโปรแกรม OCR ทั่วไปที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยี AI เป็นตัวขับเคลื่อนจะไม่สามารถจัดประเภทของข้อความได้แบบอัตโนมัติ จะทำได้แค่ดึงข้อมูลจากเอกสารออกมาทั้งหมด และพนักงานจะต้องเป็นคนมาจัดประเภทของข้อความเอง ทำให้เสียเวลา และเปลืองทรัพยากร อีกทั้งทำให้ขั้นตอนการทำงานไม่สามารถทำได้แบบอัตโนมัติทั้งหมดเหมือนกับ AI-Powered OCR
นอกจากนั้นการพิจารณาว่าโปรแกรม OCR นั้นมีการอัปเดตโมเดล AI อยู่เสมอหรือไม่ เป็นอีกหนึ่งอย่างที่ธุรกิจควรนำมาใช้ในการตัดสินใจเลือกใช้ระบบ OCR เพื่อทำให้มั่นใจได้ว่าการดึง และประมวลผลข้อมูลจากเอกสารประเภทต่างๆ ของธุรกิจจะทำได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น เนื่องจากยิ่งโมเดล AI ประมวลผลเอกสารมากขึ้นเท่าไหร่จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของโมเดล AI ดีมากยิ่งขึ้น และเมื่อธุรกิจมีเอกสารใหม่ที่เป็นเอกสารเฉพาะสามารถที่จะปรับแต่งโมเดล AI เพียงไม่กี่วันก็สามารถใช้งานได้เลย รวมถึงฟีเจอร์ Workflow automation เป็นอีกหนึ่งฟีเจอร์สำคัญที่ทำให้ธุรกิจสามารถกำหนดขั้นตอนในการดึงข้อมูลจากเอกสารได้ด้วยตนเอง ลดการทำงานแบบแมนนวล และยกระดับการทำงานให้เป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น
3. รองรับเอกสารได้หลากหลายประเภท
การมองผู้ให้บริการ OCR ที่รองรับเอกสารที่ธุรกิจต้องการใช้งานถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เพื่อให้ธุรกิจมั่นใจได้ว่าผู้ให้บริการ OCR มีโมเดล AI ที่พร้อมใช้งานสำหรับเอกสารประเภทนั้นๆ อยู่แล้ว ทำให้ขั้นตอนการทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องมาเทรนโมเดล AI เพื่อใช้ในการอ่านเอกสารประเภทนั้นๆ ใหม่
ในขณะเดียวกันหากธุรกิจของคุณมีเอกสารเฉพาะของธุรกิจ ให้มองหาผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ OCR ที่สามารถ Customize หรือปรับแต่ง และเทรนโมเดล AI ให้เข้าใจ และใช้งานได้ภายในเวลาไม่กี่วัน เรียกได้ว่าหมดห่วงเรื่องเอกสารใหม่ๆ ได้เลย
โดยบริการ aiScript OCR จาก AIGEN นั้นรองรับประเภทเอกสารได้มากกว่า 20 ประเภท ทั้งเอกสารที่มีเทมเพลตที่แน่นอน เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ สมุดบัญชีธนาคาร และเอกสารที่ไม่ได้มีเทมเพลตที่แน่นอน เช่น ใบแจ้งหนี้ ใบเสร็จรับเงิน หรือเอกสารเฉพาะของแต่ละธุรกิจ เรามีทีมงานที่พร้อมให้บริการสามารถ Customize ปรับแต่ง และเทรนโมเดล AI เพื่อให้ลูกค้าใช้งานได้อย่างรวดเร็ว
4. รองรับทั้งเอกสารภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
การมองหาผู้ให้บริการ OCR ที่สามารถอ่าน และประมวลผลเอกสารได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษเป็นอีกหนึ่งเรื่องที่มีความสำคัญไม่แพ้กัน แน่นอนว่าธุรกิจไทยย่อมต้องใช้ทั้งเอกสารภาษาไทยเป็นส่วนใหญ่ แต่หากธุรกิจไหนที่ลูกค้าเป็นชาวต่างชาติก็ต้องใช้เอกสารภาษาอังกฤษ ดังนั้นการมองหาโปรแกรม OCR ที่รองรับได้ทั้ง 2 ภาษาจึงตอบโจทย์ธุรกิจในไทยได้เป็นอย่างดี
ยิ่งถ้าเป็นผู้ให้บริการ OCR ที่เป็นบริษัทของคนไทยจะยิ่งตอบโจทย์ เนื่องจากคนไทยย่อมเข้าใจในภาษาไทย และความต้องการของธุรกิจไทยแบบเชิงลึกมากกว่าโปรแกรม OCR ที่มาจากต่างประเทศอยู่แล้ว อีกทั้งยังสามารถให้คำปรึกษา และความช่วยเหลือได้อย่างใกล้ชิด ทำให้มั่นใจได้ว่านอกเหนือจากฟีเจอร์การทำงานที่จะได้รับแล้ว ยังมีทีมงานที่พร้อมจะซัพพอร์ตในช่วงเวลาที่ธุรกิจต้องการอีกด้วย
5. ราคา และการให้บริการ
ราคาถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ธุรกิจให้ความสำคัญในการเลือกใช้งานโปรแกรม OCR แต่ราคานั้นอาจจะไม่ใช่คำตอบทั้งหมด ต้องพิจารณาปัจจัยอื่นๆ ควบคู่กันไปด้วย ทั้งในเรื่องของฟีเจอร์การทำงานของโปรแกรม OCR การให้บริการ การเชื่อมต่อระบบ และอื่นๆ เพื่อให้เห็นเป็นภาพรวมที่จะพิจารณาว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่ากับธุรกิจหรือไม่อย่างไร
โดยแต่ละเจ้าจะมีแพ็กเกจราคาที่นำเสนอที่แตกต่างกันออกไป อย่าง AIGEN เองนั้นเราจะมีแพ็กเกจราคาให้ลูกค้าเลือกทั้งแบบรายเดือน และรายปี ทั้งในรูปแบบการให้บริการทั้งแบบ On cloud และ On premise เพื่อเป็นทางเลือกให้กับแต่ละธุรกิจสามารถเลือกแพ็กเกจที่ตอบโจทย์กับธุรกิจตัวเองได้
นอกจากนั้นเรื่องบริการหลังการขายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ธุรกิจควรนำมาพิจารณาด้วยว่าแต่ละเจ้ามีทีมที่คอยให้คำปรึกษา และซัพพอร์ตในเรื่องต่างๆ หรือไม่ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการนำโปรแกรม OCR มาใช้งานจะเป็นไปอย่างราบรื่น และประสบผลสำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ธุรกิจได้ตั้งเอาไว้
6. การเชื่อมต่อระบบ
การเชื่อมต่อระบบเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ธุรกิจจะต้องนำมาพิจารณา โดยเฉพาะหากคุณวางแผนที่จะเชื่อมต่อโปรแกรม OCR กับระบบ หรือแอปพลิเคชันของธุรกิจ ตัวอย่างเช่น ฐานข้อมูล ระบบจัดการเอกสาร หรือระบบบัญชี โดยจะต้องเลือกผู้ให้บริการ OCR ที่มีบริการ API ที่จำเป็นต้องใช้ หรือการเชื่อมต่อแบบอื่นๆ เพื่อที่ตอบโจทย์การทำงานของธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ทำไมธุรกิจยุคใหม่ถึงควรนำโปรแกรม OCR ไปใช้งาน
การนำโปรแกรม OCR ไปใช้งานมีประโยชน์กับธุรกิจในหลากหลายด้าน ได้แก่
1. ยกระดับประสิทธิภาพในการทำงาน
โปรแกรม OCR จะช่วยประหยัดเวลา และทรัพยาการที่ต้องใช้ในการดึง และกรอกข้อมูลเข้าไปในระบบได้เป็นอย่างมากจากแต่เดิมต้องทำแบบแมนนวล ทำให้พนักงานมีเวลาที่จะมาโฟกัสกับงานที่สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจได้มากยิ่งขึ้น
2. ความแม่นยำที่เพิ่มมากขึ้น
OCR ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจจะเกิดความผิดพลาดจากการใช้ระบบแมนนวลในการกรอกข้อมูลเข้าไปในระบบ ยกระดับให้ขั้นตอนการทำงานของธุรกิจถูกต้อง และแม่นยำมากยิ่งขึ้น
3. ประหยัดค่าใช้จ่าย
ด้วยการกรอกข้อมูล และจัดการข้อมูลจากเอกสารแบบอัตโนมัติทำให้ธุรกิจประหยัดทรัพยากรบุคคลที่ต้องใช้ และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในภาพรวมได้เป็นอย่างดี
4. ยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล
ระบบ OCR ช่วยให้ธุรกิจเก็บ และจัดการกับข้อมูลที่อ่อนไหวได้อย่างปลอดภัย ด้วยการเก็บเอกสารให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล และกำหนดสิทธิ์ในการเข้าถึงข้อมูล
5. ยกระดับประสบการณ์ลูกค้า
โปรแกรม OCR ทำให้ธุรกิจสามารถดึงข้อมูลจากอีเมลลูกค้า และช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ทำให้ธุรกิจสามารถที่จะตอบสนองความต้องการได้อย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี
aiScript โปรแกรม OCR โดยคนไทยที่คิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจไทยโดยเฉพาะ
AIGEN ได้พัฒนา aiScript บริการ AI-Powered OCR โซลูชันสำหรับประมวลผลเอกสารได้แบบอัตโนมัติ ที่ตอบโจทย์ธุรกิจในการจัดการข้อมูลจากเอกสาร ลดภาระพนักงานจากการทำงานแบบแมนนวล ยกระดับขั้นตอนการทำงานให้เป็นอัตโนมัติมากยิ่งขึ้น มาพร้อมกับฟีเจอร์สำคัญที่รองรับทุกความต้องการของธุรกิจยุคใหม่ อีกทั้งรองรับเอกสารทั้งที่มีรูปแบบแน่นอนตายตัว ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน ใบขับขี่ สมุดบัญชีธนาคารและเอกสารที่ไม่ได้มีรูปแบบแน่นอนตายตัว เช่น Invoice หรือใบแจ้งหนี้ เอกสารการเคลมประกัน ใบสมัคร และเอกสารเฉพาะของธุรกิจ
มาพร้อมกับแพ็กเกจให้ธุรกิจได้เลือกใช้ทั้งแบบรายเดือน และรายปี อีกทั้งมีให้บริการทั้งแบบ On cloud และ On premise นอกจากนั้นยังมีการอัปเดตโมเดล AI ให้ทันสมัยอยู่เสมอเพื่อทำให้การดึง และประมวลผลข้อมูลจากเอกสารประเภทต่างๆ ทำได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดย aiScript OCR จาก AI GEN มีฟีเจอร์ที่โดดเด่นที่ตอบโจทย์ธุรกิจยุคใหม่ได้ดังต่อไปนี้
- เข้าใจโครงร่าง และแพตเทิร์นของเอกสารโดยไม่จำเป็นต้องสร้างเทมเพลตไว้ล่วงหน้า
- ดึงข้อมูลจากใบแจ้งหนี้ และเอกสารประเภทอื่นๆ มากกว่า 20 ประเภทได้อย่างแม่นยำ
- ดึงข้อมูลลงตารางได้โดยอัตโนมัติ
- แยกประเภทของเอกสาร (Document classification) ได้แบบอัตโนมัติ
- ส่งออกข้อมูลเป็นไฟล์ JSON หรือรวบรวมข้อมูลเข้าโปรแกรมเกี่ยวกับบัญชีการเงิน เช่น SAP ERP และโปรแกรมอื่นๆ ได้
- ส่งข้อมูลเป็น Batch ให้ประมวลผลข้ามคืนได้
- สร้าง Workflow automation เฉพาะของแต่ธุรกิจได้ เพื่อให้ขั้นตอนการทำงานทำได้โดยอัตโนมัติ
นอกจากนั้น aiScript OCR จาก AIGEN ยังรองรับข้อจำกัดของเอกสาร โดยที่สามารถประมวลผลข้อมูลได้ภายใต้ข้อจำกัดต่างๆได้ แม้ภาพจะเอียง เบี้ยว หรือกลับด้าน รวมถึงรองรับทุกความต้องการของการประมวลเอกสาร สามารถระบุได้ว่าต้องการฟิลด์ข้อมูลใดบ้าง หรือต้องการ output ของข้อมูลในรูปแบบใด
โดยทางทีมงานสามารถ customize ให้ได้ตามความต้องการของแต่ละธุรกิจ และที่สำคัญสามารถเชื่อมต่อกับระบบ หรือซอฟต์แวร์ต่างๆที่ธุรกิจใช้อยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็น SAP, Salesforce, Gmail และอื่นๆ ได้อย่างง่ายดาย ผ่านทาง aiScript OCR API Service หรือสามารถทดลองใช้งาน aiScript OCR ฟรี! ได้ที่ Link
ต้องการนำโปรแกรม OCR ไปใช้งานกับธุรกิจ
โปรแกรม OCR ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญของธุรกิจยุคใหม่ที่จะเข้ามาทำให้การดึง และประมวลผลจากเอกสารเป็นเรื่องสะดวก และอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น ลดการทำงานแบบแมนนวล และลดความเสี่ยงที่ข้อมูลจะผิดพลาดได้ อีกทั้งยังช่วยสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจด้วยการให้บริการที่รวดเร็ว สะดวก และปลอดภัยด้วยขั้นตอนการทำ Customer onboarding ที่ทันสมัย เพียงแค่ใช้แอปพลิเคชันถ่ายรูปบัตรประชาชนนอกจากจะช่วยประหยัดเวลา และต้นทุนแล้ว ยังช่วยเพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจอีกด้วย
หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาซอฟต์แวร์ OCR ไปใช้งาน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และเพิ่มขีดความสามารถให้กับธุรกิจของคุณ ผู้เชี่ยวชาญของเรายินดีให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การออกแบบขั้นตอนการทำงาน จนถึงการนำซอฟต์แวร์ OCR ไปใช้งานให้ประสบผลสำเร็จ ติดต่อเพื่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน AI อัจฉริยะ พร้อมช่วยขับเคลื่อนการทำงานของธุรกิจ มีประสบการณ์ให้บริการโซลูชัน AI เพื่อองค์กรระดับประเทศมากมาย