Share

แนะนำ 4 เครื่องมือ AI ตัวช่วยสำคัญสำหรับ HR ยุคใหม่

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานั้น หน่วยงาน HR หรือการบริหารทรัพยากรบุคคลนั้นได้พัฒนา และก้าวขึ้นมาเป็นหน่วยงานที่สำคัญหน่วยงานหนึ่งขององค์กร เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการสร้างการเปลี่ยนแปลง และการเติบโตให้กับองค์กร โดยจากรายงานของ SAP บริษัทซอฟต์แวร์ชื่อดัง ได้กล่าวไว้ว่า เทคโนโลยี AI ถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่จะสร้าง Impact หรือผลกระทบให้กับ HR ยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก AI นั้นไม่ได้เป็นเพียงแค่เทรนด์ หรือการคาดการณ์อีกต่อไป องค์กรจำเป็นต้องเปิดรับการเข้ามาของ AI เพื่อใช้ในการพัฒนา และยกระดับองค์กร และทักษะของพนักงานขึ้นไปอีกขั้น

โดยการนำ AI เข้ามาใช้กับงานด้าน HR นั้นสามารถทำได้ในหลากหลายรูปแบบ เนื่องจาก AI นั้นสามารถเข้ามาช่วยการทำงานของ HR ได้ในหลากหลายด้าน ตั้งแต่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน การยกระดับการมีส่วนร่วมของพัฒนา ไปจนถึงช่วยในพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ให้กับพนักงาน รวมถึงในปัจจุบันได้มีเครื่องมือ AI มากมายให้หน่วยงาน HR ของแต่ละธุรกิจสามารถนำไปใช้งานเพื่อยกระดับขั้นตอนการทำงานขึ้นไปอีกขั้นได้

การนำเครื่องมือ AI ไปใช้กับงาน HR

4 เครื่องมือ AI น่าใช้งานที่ตอบโจทย์การทำงานของ HR ยุคใหม่ได้เป็นอย่างดี

AIGEN ได้รวบรวมเครื่องมือ AI สำหรับ HR เพื่อให้ HR ยุคใหม่ได้นำไปใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และทำให้ขั้นตอนการทำงานเป็นไปอย่างอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น 

1. AI ดึงข้อมูลจากเอกสารได้แบบอัตโนมัติ

แน่นอนว่าหน่วยงาน HR เองนั้นย่อมต้องเกี่ยวข้องกับงานเอกสารเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่ขั้นตอนการสรรหาพนักงาน Onboarding ไปจนถึงเรื่องสวัสดิการของพนักงาน ซึ่งหากยังใช้ระบบแมนนวลแบบเดิมโดยการให้ HR เป็นคนกรอกข้อมูลอยู่นั้นต้องใช้เวลาเป็นอย่างมาก และมีโอกาสที่ข้อมูลอาจจะผิดพลาดได้ รวมไปถึงส่งผลให้การทำงานล่าช้าได้

การนำเครื่องมือ AI ที่ใช้ในการดึงข้อมูลจากเอกสาร หรือ AI-OCR เข้ามาใช้งานนั้นจะช่วยลดภาระงานการกรอกข้อมูลเข้าไปในระบบของ HR ได้เป็นอย่างมาก โดยที่ HR มีหน้าที่ในการตรวจสอบข้อมูลที่ AI ดึงออกมาได้เพียงเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ขั้นตอนการทำงานนั้นทำได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น   

ตัวอย่างที่ HR มักจะนำเครื่องมือ AI-OCR ไปใช้งาน ได้แก่ การนำระบบ AI-OCR มาใช้ในการดึงข้อมูลจากใบแจ้งหนี้ค่ารักษาพยาบาลเพื่อทำให้ขั้นตอนการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลของพนักงานทำได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยลดงานแมนนวลของทีม HR ได้เป็นอย่างดี ซึ่งบริการ aiScript เครื่องมือ AI-OCR ที่ทาง AIGEN ได้พัฒนาขึ้นนั้นรองรับการดึง และประมวลผลข้อมูลจากใบแจ้งหนี้ค่ารักษาพยาบาลได้เป็นอย่างดี และยังรองรับเอกสารอื่นๆ ได้มากกว่า 20 ประเภท เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน หน้าสมุดบัญชีธนาคาร เป็นต้น

อ่านบทความ ยกระดับการเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายของพนักงานด้วยบริการ AI-OCR สำหรับ HR เพิ่มเติม

2. AI ตรวจจับใบหน้า

ถึงแม้ว่าในปัจจุบันหลายๆ องค์กรจะเปลี่ยนมาใช้นโยบายในการเข้าออฟฟิศแบบ Flexible กันมากยิ่งขึ้น แต่แน่นอนว่าเวลาเข้าออฟฟิศนั้นหลายๆ ที่ยังต้องมาใช้บัตรพนักงาน หรือการสแกนลายนิ้วมือเพื่อเป็นการรักษาความปลอดภัยในการเข้าถึงพื้นที่ออฟฟิศ และเป็นเช็กว่าพนักงานได้มาทำงานจริงๆ 

แต่ตั้งแต่เกิดสถานการณ์โรคระบาดโควิด 19 ที่ผ่านมาทำให้หลายๆ ออฟฟิศได้เปลี่ยนมาขั้นตอนการเข้าถึงพื้นที่ออฟฟิศมาเป็นแบบไร้สัมผัส (Contactless) กันมากยิ่งขึ้นเพื่อลดการสัมผัส และลดโอกาสในการติดเชื้อโรค จึงทำให้มีการนำระบบ AI ตรวจจับใบหน้าเข้ามาใช้งานกันมากยิ่งขึ้น โดยให้พนักงานใช้การแสกนใบหน้าในการเข้า-ออกออฟฟิศแทนการสแกนลายนิ้วมือ หรือการใช้บัตรพนักงาน

มีองค์กรหลายแห่งได้นำ aiFace ระบบ AI ตรวจจับใบหน้าไปใช้งานเพื่อเปรียบเทียบใบหน้าของพนักงานในการเข้า-ออกออฟฟิศ เพื่อยกระดับความปลอดภัย ลดการสัมผัส และลดโอกาสในการทุจริตโดยการให้เพื่อนนำบัตรพนักงานมาสแกนเพื่อเข้างานให้แทน 

3. AI จัดการ และค้นหาข้อมูลภายในองค์กร

ในแต่ละองค์กรเองนั้นย่อมมีข้อมูลต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลของแต่ละหน่วยงาน ข้อมูลบริษัท ข้อมูลสินค้า และบริการ หรือหน่วยงาน HR เองนั้นมีข้อมูลที่ต้องนำไปใช้งานต่อเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นใบสมัครงาน หรือ Resume ข้อมูลพนักงาน เอกสารกฎระเบียบ และข้อบังคับในการทำงานต่างๆ ซึ่งหากไม่มีระบบที่ใช้ในการจัดเก็บ และรวบรวมข้อมูลไว้ในที่เดียวกันนั้น แน่นอนว่าทำให้การนำข้อมูลไปใช้งานต่อนั้นทำได้ยาก และไม่ตอบโจทย์กับการทำงานยุคใหม่ที่ต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูล

จึงทำให้ระบบ AI-Knowledge management เข้ามามีบทบาทสำคัญสำหรับ HR ยุคใหม่ เนื่องจากเข้ามาช่วยให้การจัดการ และค้นหาข้อมูลภายในองค์กรทำได้อย่างสะดวก และรวดเร็วได้มากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถนำข้อมูลที่มีอยู่ภายในองค์กรไปใช้ต่อยอดในด้านอื่นๆ ได้เป็นอย่างดี รวมทั้งยังช่วยลดปัญหาที่ความรู้ และข้อมูลนั้นจะไปพร้อมกับพนักงานที่ลาออกไปได้ เนื่องจากได้มีการจัดเก็บข้อมูลไว้ในระบบ AI-Knowledge management แทนที่จะเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ หรือ Shared drive ของพนักงานแต่ละคนแทน

โดยที่เพียงแค่อัปโหลดไฟล์เอกสาร ลิ้งค์เว็บไซต์ หรือคำถาม Q&A เข้ามาในระบบ AI-Knowledge management หลังจากนั้นระบบจะประมวล และดึงข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่ได้อัปโหลดเข้ามาด้วยเทคโนโลยี AI-OCR และ NLP ได้แบบอัตโนมัติ เพียงแค่นี้ผู้ใช้งานก็สามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการจากไฟล์เอกสาร หรือแหล่งข้อมูลต่างๆ ได้โดยทันที ซึ่งสามารถค้นหาได้ทั้งแบบคีย์เวิร์ด หรือค้นหาจากการถาม-ตอบ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ตอบโจทย์การจัดการ และค้นหาข้อมูลภายในองค์กรได้เป็นอย่างดี

4. AI ตอบคำถามพนักงานได้แบบอัตโนมัติ

โดยอีกหนึ่งเครื่องมือที่ HR สามารถนำมาใช้งานภายในองค์กรได้เช่นกันนั้นก็คือ AI Chatbot เพื่อใช้ในการตอบคำถามพนักงานได้แบบอัตโนมัติ และให้ทำหน้าที่บางอย่างแทน HR ได้ เช่น การตรวจสอบสถานะการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล เป็นต้น

หน่วยงาน HR สามารถนำระบบ AI-Knowledge management มาต่อยอดเพื่อสร้างเป็น AI Chatbot ไว้ใช้งานภายในองค์กรได้แบบง่ายๆ เพียงแค่อัปโหลดข้อมูลที่ต้องการให้ Chatbot ใช้ในการตอบคำถามเข้าไปในระบบ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์คำถาม Q&A ลิ้งค์เว็บไซต์ หรือไฟล์เอกสาร หลังจากนั้นทำการเชื่อมต่อระบบเข้ากับเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันการสื่อสารขององค์กร เพียงแค่นี้ HR ก็สามารถมี AI Chatbot เพื่อใช้งานในองค์กรได้แบบง่ายๆ ซึ่งจะทำให้หน่วยงาน HR มีเวลาในการโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์ต่างๆ ได้มากยิ่งขึ้น

มองหาเครื่องมือ AI สำหรับ HR ไปใช้งานภายในองค์กร

เครื่องมือ AI จะเข้ามาช่วยให้การทำงานของ HR ยุคใหม่นั้นทำได้อย่างรวดเร็ว และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น เปรียบเสมือนมีผู้ช่วยจัดการงานรูทีนให้ ทำให้ HR มีเวลาโฟกัสกับงานเชิงกลยุทธ์ และความคิดสร้างสรรค์ได้มากยิ่งขึ้น ที่จะช่วยขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน

หากคุณกำลังมองเครื่องมือ AI สำหรับงาน HR ไปใช้งานภายในองค์กร เพื่อยกระดับขั้นตอนการทำงาน ผู้เชี่ยวชาญของเราผู้เชี่ยวชาญของเรายินดีให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การออกแบบขั้นตอนการทำงาน จนถึงการนำโซลูชัน AI ไปใช้งานให้ประสบผลสำเร็จ ติดต่อเพื่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่

AIGEN Live chat