Share

รู้จักประเภทปัญญาประดิษฐ์ และ 3 ระดับความสามารถของ AI

ในยุคที่เทคโนโลยีก้าวกระโดดอย่างรวดเร็ว AI หรือ Artificial Intelligence กลายเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในทุกภาคส่วน ตั้งแต่การใช้งานในชีวิตประจำวันไปจนถึงการปฏิวัติอุตสาหกรรม แม้หลายคนอาจคุ้นเคยกับ AI ผ่านภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือเกมต่าง ๆ แต่ความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับ AI ยังคงเป็นเรื่องที่น่าค้นหา

A.I. Artificial Intelligence ภาพยนตร์ที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้จักเทคโนโลยี AI ซึ่งมีประเภทปัญญาประดิษฐ์อยู่หลากหลาย
A.I. Artificial Intelligence
ภาพประกอบจาก www.imdb.com

ภาพจำของ AI สำหรับหลาย ๆ คน อาจจะเริ่มมาจากภาพยนตร์เรื่อง A.I. Artificial Intelligence ในปี 2001 ของ Steven Spielberg ซึ่งทำให้ AI เป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น แม้ในอดีตจะมีภาพยนตร์ที่กล่าวถึง AI มาบ้างแล้ว แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้นับเป็นเรื่องแรก ๆ ที่นำเสนอ AI ในรูปแบบที่คล้ายคลึงกับมนุษย์มากที่สุด นั่นคือ มีความคิด ความรู้สึก และความรัก

แล้ว AI คืออะไร AI หมายถึงหุ่นยนต์ที่มีหน้าตาท่าทางรวมถึงพฤติกรรมคล้ายกับมนุษย์หรือเปล่า วันนี้เราจะมาหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน

AI คืออะไร?

AI หรือ Artificial Intelligence (ปัญญาประดิษฐ์) คือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ถูกพัฒนาให้มีความสามารถในการเลียนแบบกระบวนการคิดและการเรียนรู้ของมนุษย์ ในปัจจุบัน AI ได้พัฒนาจนสามารถประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ เรียนรู้จากข้อมูลที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก และตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาด โดยอาศัยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า เช่น Machine Learning และ Deep Learning ที่ช่วยให้ AI สามารถพัฒนาความสามารถได้อย่างต่อเนื่องผ่านการเรียนรู้จากข้อมูล

วิวัฒนาการของ AI

จุดเริ่มต้นของ AI ย้อนกลับไปในทศวรรษ 1950 เมื่อนักวิทยาศาสตร์เริ่มสำรวจความเป็นไปได้ในการสร้างสมองกลที่คิดได้เหมือนมนุษย์

การพัฒนาได้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่องจนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญในปี 2012 เมื่อ Deep Learning ปฏิวัติวงการด้วยความสามารถในการเรียนรู้แบบเชิงลึก ทำให้ปัจจุบัน AI สามารถทำงานที่ซับซ้อนได้หลากหลาย เช่น

  • สร้างสรรค์ผลงานศิลปะและดนตรี
  • วิเคราะห์และพยากรณ์แนวโน้มทางธุรกิจ
  • วินิจฉัยโรคทางการแพทย์
  • ขับเคลื่อนยานพาหนะอัตโนมัติ

1. แบ่งประเภทจากระบบการประมวลผลของ AI

1.1 Reactive Machines

Reactive Machines คือ AI ขั้นพื้นฐานที่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ตรงหน้าได้ แต่ไม่มีความจำและไม่สามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ ซึ่งแปลว่าจะไม่สามารถใช้ข้อมูลเก่า ๆ ในอดีตมาพัฒนาการตัดสินใจของตัวเองให้ดีขึ้นได้ จึงถือว่ามีความสามารถค่อนข้างจำกัด พูดอีกอย่างหนึ่งก็คือ Reactive Machines ไม่สามารถที่จะเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง ทำได้แค่เพียงมีปฏิกิริยาโต้ตอบกับสถานการณ์ตรงหน้าเท่านั้น เช่น ระบบ AI ที่เล่นหมากรุกโดยวิเคราะห์เฉพาะสถานการณ์ปัจจุบันบนกระดาน

ตัวอย่างที่มีชื่อเสียงมาก ๆ คือ Deep Blue ของ IBM ที่สามารถโค่น Garry Kasparov แชมป์หมากรุกอันดับหนึ่งของโลกสำเร็จในปี 1997

Reactive Machines คือ AI ที่ใช้ใน Deep Blue ของ IBM ที่ชนะ แชมป์หมากรุกอันดับหนึ่งของโลกในปี 1997
การแข่งขันระหว่าง Garry Kasparov และ Deep Blue
ภาพประกอบจาก phys.org

1.2 Limited Memory

Limited Memory เป็น AI ที่พัฒนาขึ้นมาอีกขั้น มี Memory เป็นของตัวเอง สามารถเรียนรู้จากข้อมูลในอดีตเพื่อปรับปรุงการตัดสินใจในปัจจุบัน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือระบบแนะนำสินค้าที่เรียนรู้จากพฤติกรรมการซื้อของลูกค้า หรือรถยนต์ไร้คนขับที่เรียนรู้จากสถานการณ์การจราจรที่เคยพบ เช่น หากเรานำรูปส้มกับแตงโมไปให้ AI ประเภทนี้ พร้อมบอกว่ารูปภาพไหนคือผลไม้ที่ชื่อ “ส้ม” และรูปไหนคือผลไม้ที่เรียกว่า “แตงโม” เมื่อได้รับข้อมูลรูปภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ AI ประเภท Limited Memory ก็จะสามารถบอกเราได้ว่าภาพแต่ละภาพนั้นคือส้มหรือแตงโม โดยหากยิ่งมีข้อมูลมากเท่าไร ระดับความถูกต้องแม่นยำก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ ค่ะ (การระบุภาพของ AI ตามตัวอย่างดังกล่าวเรียกว่า Image Recognition)

ตัวอย่างอื่น ๆ ของ AI ประเภท Limited Memory เช่น แชตบอต Virtual Assistants และ Self-Driving Cars เป็นต้น

Tesla Self-Driving Car
ภาพประกอบจาก www.bbc.com

1.3 Theory of Mind

Theory of Mind เป็นขั้นพัฒนาการที่สูงขึ้น ที่มุ่งให้ AI สามารถเข้าใจอารมณ์ ความคิด และพฤติกรรมของมนุษย์ แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่มีความก้าวหน้าในการพัฒนา Emotional AI ที่สามารถตรวจจับและตอบสนองต่ออารมณ์ของมนุษย์ได้บางส่วน

1.4 Self-Awareness

Self-Awareness เป็นขั้นสูงสุดที่ AI จะมีความตระหนักรู้ในตนเอง โดยจะมีอารมณ์ความรู้สึก ความเชื่อ ความต้องการเป็นของตัวเอง รวมถึงสามารถที่จะคิด เลือก และกระทำสิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองทั้งหมด ซึ่งยังเป็นเพียงแนวคิดในทางทฤษฎีที่นักวิทยาศาสตร์และนักพัฒนากำลังศึกษาถึงความเป็นไปได้และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น

aiScript คือ AI ประมวลผลเอกสารและข้อมูลรูปแบบใหม่ เป็นประเภทปัญญาประดิษฐ์ที่เสริมระบบ OCR ด้วย AI

2. แบ่งประเภทจากระดับความสามารถของ AI

2.1 Artificial Narrow Intelligence (ANI)

Artificial Narrow Intelligence (ANI) คือ AI ที่สามารถทำงานบางอย่างแทนมนุษย์ได้ แต่จะจำกัดอยู่ในวงแคบ ๆ เท่านั้น นั่นคือ ต้องเป็นงานหรือทักษะที่ได้รับการโปรแกรมมาให้ทำเท่านั้น ไม่สามารถทำงานอื่นใดนอกเหนือจากนั้น หรือเรียนรู้ด้วยตนเองเพิ่มเติมได้ เช่น ChatGPT ที่เชี่ยวชาญในการประมวลผลภาษา หรือระบบ AI-OCR ที่เชี่ยวชาญด้านการประมวลผล และดึงข้อมูลที่ต้องการจากเอกสารประเภทต่างๆ แม้จะทำงานได้ดีในด้านที่ถูกออกแบบมา แต่ไม่สามารถประยุกต์ความรู้ข้ามศาสตร์ได้เหมือนมนุษย์

2.2 Artificial General Intelligence (AGI)

Artificial General Intelligence (AGI) หรือ Strong AI มีสติปัญญาและสามารถทำงานต่าง ๆ ได้เทียบเท่ากับสมองของมนุษย์ เช่น สามารถคิดวิเคราะห์ วางแผน แก้ปัญหาที่ซับซ้อน เข้าใจเรื่องราวที่เป็นนามธรรม รวมถึงสามารถเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตได้เหมือนกับที่มนุษย์ทำได้ แม้ว่าปัจจุบันจะยังไม่มีการพัฒนา AGI ได้สำเร็จ แต่การพัฒนากำลังก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในด้านการเรียนรู้และการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่หลากหลาย

2.3 Artificial Super intelligence (ASI)

Artificial Super Intelligence (ASI) คือสุดยอด AI ที่มีปัญญาเหนือกว่ามนุษย์ ซึ่งยังคงเป็นแนวคิดที่ถกเถียงกันในวงการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทั้งในแง่ความเป็นไปได้และผลกระทบต่อมนุษยชาติ รวมถึงประเด็นด้านจริยธรรมและการควบคุม และแน่นอนว่าในปัจจุบันเรายังไม่สามารถพัฒนา AI ประเภทนี้ขึ้นมาได้ แต่ไอเดียการมีอยู่ของ Artificial Super intelligence (ASI) นั้น มักจะปรากฏอยู่ในสื่อต่าง ๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเกม ภาพยนตร์ ซีรีส์ หรือนวนิยายนั่นเอง

Artificial Super Intelligence (ASI) คือประเภทปัญญาประดิษฐ์ที่กล่าวถึงในภาพยนตร์เรื่อง Westworld
Westworld ซีรี่ส์ที่กล่าวถึงเหล่า AI ที่สามารถคิดและตัดสินใจได้ด้วยตนเอง
ภาพประกอบจาก www.imdb.com

การประยุกต์ใช้ AI ในปัจจุบัน

ปัจจุบัน AI ได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและการพัฒนาในทุกภาคส่วน

  • ด้านการแพทย์ AI ช่วยในการวินิจฉัยโรคจากภาพถ่ายทางการแพทย์ได้อย่างแม่นยำ และยังช่วยในการพัฒนายาและวัคซีนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ด้านการเงิน AI ช่วยวิเคราะห์ความเสี่ยงสินเชื่อ ตรวจจับการฉ้อโกง และให้คำแนะนำการลงทุนที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย
  • ด้านการผลิต AI ช่วยในการควบคุมคุณภาพ การบำรุงรักษาเชิงพยากรณ์ และการจัดการห่วงโซ่อุปทานให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

ความท้าทายและการเตรียมพร้อมสู่อนาคต

การพัฒนา AI นำมาซึ่งความท้าทายหลายประการที่สังคมต้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะในด้านความปลอดภัยของข้อมูล การรักษาความเป็นส่วนตัว และผลกระทบต่อการจ้างงาน การสร้างความสมดุลระหว่างการพัฒนาเทคโนโลยีและการรักษาคุณค่าความเป็นมนุษย์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

แนวโน้มการพัฒนา AI ในอนาคตมุ่งเน้นไปที่การสร้าง AI ที่ยั่งยืนและมีความรับผิดชอบมากขึ้น เช่น การพัฒนา Explainable AI ที่สามารถอธิบายเหตุผลในการตัดสินใจได้ การผสมผสาน AI กับ Quantum Computing เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการประมวลผล และการพัฒนา AI ที่ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

จากบทความนี้ทำให้ผู้อ่านได้เห็นภาพของแต่ละประเภทของ AI กันมากขึ้น ว่า AI ไม่ใช่เพียงเทคโนโลยีแห่งอนาคตอีกต่อไป แต่เป็นส่วนสำคัญของปัจจุบันที่กำลังพัฒนาและเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเข้าใจพื้นฐานและศักยภาพของ AI จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทุกคนในยุคดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นองค์กร ผู้ประกอบการ หรือบุคคลทั่วไป เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและใช้ประโยชน์จาก AI ได้อย่างเต็มศักยภาพและมีความรับผิดชอบ สิ่งสำคัญคือการพัฒนา AI ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงจริยธรรม ความปลอดภัย และประโยชน์ต่อมนุษยชาติโดยรวม เพื่อให้ AI เป็นเครื่องมือที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างสรรค์สังคมที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน

หากสนใจศึกษาและพัฒนา AI ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น บริษัท AIGEN กำลังรับสมัครเพื่อนร่วมงานหลายตำแหน่ง สามารถคลิกดูตำแหน่งงานที่น่าสนใจได้ที่ link นี้กันได้เลย

AIGEN Live chat