ปลอดภัยกว่า! ด้วยระบบยืนยันตัวตนสำหรับธุรกิจร้านขายทอง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าธุรกิจร้านทองกำลังเผชิญกับความเสี่ยงในหลากหลายรูปแบบจากการทุจริตของ “ลูกค้า” และจากกฎหมายที่ทางปปง. หรือสำนักงานป้องกันและปรามปราบการฟอกเงินได้กำหนดไว้ว่าให้ร้านทองจัดทำขั้นตอนการยืนยันตัวตนของลูกค้าในกรณีที่ลูกค้ามีการทำธุรกรรมตั้งแต่ 1 แสนบาทขึ้นไปหรืออาจมีความเชื่อมโยงต่อเนื่อง ทำให้การยืนยันตัวตนในรูปแบบเอกสารอาจไม่เพียงพออีกต่อไป ในบทความนี้จะมาแชร์ถึงตัวช่วยอย่างระบบยืนยันตัวตนสำหรับธุรกิจร้านขายทองในแบบอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมแนะนำนวัตกรรมยืนยันตัวตนในรูปแบบต่าง ๆ ที่มีประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ พร้อมช่วยเสริมกรอบด้านความปลอดภัยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น!
เหตุผลที่ร้านทองต้องการใช้ระบบยืนยันตัวตนในรูปแบบดิจิทัล
ธุรกิจร้านทองเป็นอีกหนึ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่ต้องแบกรับกับความเสี่ยงในหลายด้าน ทั้งจากความผันผวนของราคาทอง ไปจนถึงความเสี่ยงต่อการถูกโจรกรรม ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลาย ๆ คน เลือกที่จะมองหาระบบการยืนยันตัวตนสำหรับธุรกิจร้านขายทอง เพื่อนำมาใช้เป็นโซลูชันในการแก้ปัญหาด้านข้อมูลลูกค้า อีกทั้งยังสามารถนำมารับมือกับความเสี่ยงที่มีโอกาสเกิดขึ้นในยุคปัจจุบัน เช่น
- รูปแบบการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไป จากการเพิ่มช่องทางการขายทองออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกในการซื้อขายทองมากยิ่งขึ้น
- การทุจริตและฉ้อโกง อาจมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การแอบอ้างเป็นบุคคลอื่นเพื่อทำการซื้อขายทองคำ การปลอมแปลงเอกสารยืนยันตัวตน การยักยอกทองคำ เป็นต้น
- การโจรกรรม ทั้งในรูปแบบของการลักทรัพย์ การปล้นทรัพย์ เป็นต้น
- ภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วม ไฟไหม้ เป็นต้น
โดยปัญหาทั้งหมดนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำกระบวนการยืนยันตัวตนในรูปแบบดิจิทัล (Digital Onboarding) ซึ่งเป็นการเก็บข้อมูลลูกค้าผ่านทางออนไลน์ อีกทั้งยังจะช่วยให้กลุ่มลูกค้าจริงสามารถเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็ยังช่วยยกระดับด้านความปลอดภัย และเสริมปราการป้องกัน โดยใช้ “ข้อมูล” เป็นตัวแปรหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจ
3 ระบบยืนยันตัวตนสำหรับธุรกิจร้านขายทอง
การนำระบบยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์เข้ามาปรับใช้กับร้านทอง สามารถทำได้หลากหลายวิธี แต่โดยทั่วไปแล้วจะนิยมใช้กันทั้งหมด 3 แบบ เพราะใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก สามารถแบ่งได้ ดังต่อไปนี้
1. การยืนยันตัวตนแบบผสมผสานระหว่าง Biometrics + เอกสาร
ระบบการยืนยันตัวตนสำหรับธุรกิจร้านขายทองแบบผสมผสาน เป็นกระบวนการยืนยันตัวตนที่ดึงเอาเทคโนโลยีชีวภาพ (Biometrics) และการใช้เอกสารยืนยันตัวตน (Document Authentication) เข้ามาทำงานร่วมกัน เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในการปลอมแปลงตัวตน
โดย Biometrics จะเป็นการยืนยันตัวตนผ่านลักษณะเฉพาะของร่างกายหรือพฤติกรรมของบุคคล เช่น ใบหน้า ลายนิ้วมือ เสียง และม่านตา ซึ่งในปัจจุบันจะใช้เทคโนโลยี Liveness detection เข้ามาช่วย เพราะมีความแม่นยำในการจดจำตัวตนค่อนข้างสูงและยากต่อการปลอมแปลง อีกทั้งเมื่อนำมาทำงานร่วมกับหลักฐานทางเอกสารที่ถูกออกโดยหน่วยราชการอย่างบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง จึงทำให้รูปแบบการยืนยันตัวตนด้วยการใช้รูปถ่ายเซลฟี่ใบหน้า และนำมาเปรียบเทียบกับรูปถ่ายในบัตรประชาชนเป็น Use case ที่ได้รับความนิยมจากธุรกิจร้านขายทองชั้นนำไนไทย โดยที่ทางร้านได้จัดเก็บข้อมูลในรูปแบบของกระดาษหลังถ่ายเอกสาร รวมถึงแปลงเป็นไฟล์เอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถอ่านด้วยเทคโนโลยี OCR โดยมี AI เป็นตัวช่วยสำคัญด้านความแม่นยำหากต้องการเรียกดูข้อมูล ก็จะยิ่งเพิ่มความน่าเชื่อถือ และช่วยระบุตัวตนได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น
2. การตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัล
สำหรับร้านทอง ที่ใช้ระบบยืนยันตัวตนด้วยเอกสาร ยังสามารถใช้เทคโนโลยีในการตรวจสอบลายเซ็นดิจิทัลเข้ามาช่วยในการยืนยันตัวตนได้ด้วยเช่นกัน โดยกระบวนการตรวจสอบก็สามารถทำได้หลากหลายวิธี ทั้งการตรวจสอบด้วยตนเอง ผ่านการเปรียบเทียบลายเซ็นดิจิทัลบนเอกสาร กับลายเซ็นดิจิทัลที่เก็บไว้ในฐานข้อมูล หรือการตรวจสอบด้วยซอฟต์แวร์ ซึ่งเป็นการตรวจสอบความถูกต้องของลายเซ็นดิจิทัลแบบอัตโนมัติ
ซึ่งระบบการยืนยันตัวตนสำหรับธุรกิจร้านขายทองที่ใช้ลายเซ็นดิจิทัล ถือเป็นโซลูชันที่สามารถนำไปใช้งานได้อย่างสะดวก ทั้งยังช่วยป้องกันการทุจริตและฉ้อโกงได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำไปปรับใช้ได้กับเอกสารสำคัญต่าง ๆ เช่น ใบซื้อขายทองคำ สัญญาซื้อขายทองคำ เป็นต้น
3. การยืนยันความปลอดภัยแบบ 2FA หรือ MFA
ปิดท้ายด้วยการยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย (2FA) หรือหลายปัจจัย (MFA) ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้หลากหลายเทคโนโลยีร่วมกัน เพื่อยกระดับความปลอดภัยของข้อมูล ทั้งยังช่วยป้องกันการเข้าถึงข้อมูลสำคัญได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยส่วนมากจะใช้กับการยืนยันตัวตนเพื่อเข้าสู่ระบบบัญชีออมทองออนไลน์ ซึ่งจะมีการยืนยันตัวตนทั้งจากรหัสผ่าน คำถามรักษาความปลอดภัย และการยืนยันผ่าน Liveness Detection เป็นต้น
ซึ่งแน่นอนว่าผู้ประกอบการ สามารถกำหนดวิธีการใช้ระบบการยืนยันตัวตนสำหรับธุรกิจร้านขายทองได้ทั้งแบบ 2FA หรือ MFA ตามความต้องการ โดยควรพิจารณาร่วมกับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระดับความเสี่ยงในการทุจริตและการฉ้อโกง งบประมาณ และความพร้อมในการใช้งาน
ประโยชน์ของการใช้ระบบยืนยันตัวตนสำหรับร้านทองแบบครบวงจร
- เพิ่มความปลอดภัย ทั้งจากการโจรกรรมและถูกแอบอ้างจากมิจฉาชีพ ผ่านระบบยืนยันตัวตนสำหรับร้านทองแบบครบวงจร ซึ่งช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับธุรกิจ พร้อมลดความเสี่ยงได้อย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการถูกแอบอ้างจากบุคคลอื่นเพื่อทำการซื้อขายทองคำ การปลอมแปลงเอกสารซื้อขายทองคำ ตลอดจนการถูกนำไปแอบอ้างเพื่อหลอกลวงผู้บริโภค
- เพิ่มความสะดวกและรวดเร็ว โดยลูกค้าสามารถยืนยันตัวตนได้โดยไม่ต้องเดินทางมาที่สาขาของร้านทอง ซึ่งช่วยลดขั้นตอนการทำงานและระยะเวลาในการยืนยันตัวตน ทำให้ร้านทองสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
- ยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ผ่านการพัฒนาระบบการยืนยันตัวตนสำหรับธุรกิจร้านขายทองให้มีประสิทธิภาพและปลอดภัย ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
ลดความเสี่ยงให้กับธุรกิจร้านทองจากการทุจริตด้วยการปลอมแปลงเอกสาร และการฟอกเงินของมิจฉาชีพทุกรูปแบบ ด้วยบริการยืนยันตัวตนอิเล็กทรอนิกส์จาก AIGEN กับโซลูชัน AI-Powered e-KYC Gateway ที่จะช่วยให้การยืนยันตัวตนทางออนไลน์เป็นเรื่องง่ายและสะดวก สามารถติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาและพัฒนาระบบยืนยันตัวตนที่ดีที่สุดให้กับร้านทองของคุณได้แล้วที่นี่
ข้อมูลอ้างอิง
- What is biometrics?. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566. https://www.techtarget.com/searchsecurity/definition/biometrics
- How To Create & Verify Digital Signatures Online . สืบค้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566. https://signdesk.com/in/esign/what-is-digital-signature
- Identity verification solutions: How to choose the right one?. สืบค้นเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2566. https://microblink.com/resources/blog/identity-verification-solution/
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน AI อัจฉริยะ พร้อมช่วยขับเคลื่อนการทำงานของธุรกิจ มีประสบการณ์ให้บริการโซลูชัน AI เพื่อองค์กรระดับประเทศมากมาย