Share

ระบบ Face Recognition สามารถนำมาใช้งานได้ในรูปแบบใดบ้าง

Face Recognition เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลาย ทั้งในชีวิตประจำวัน และในภาคธุรกิจเอง  แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีประเภทนี้อยู่ใกล้ตัวเรามากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บนโทรศัพท์มือถือ ที่เข้ามาช่วยซัพพอร์ตการสแกนใบหน้า เพื่อง่ายต่อการล็อกอินเข้าสู่หน้าจอ หรือแม้กระทั่งการนำไปใช้ในด้านการตรวจจับบุคคลที่ไม่มีสิทธิ์เข้ามาในพื้นที่หวงห้าม เป็นต้น เราจะเห็นได้ว่า การใช้งานระบบ Face Recognition เป็นการช่วยเพิ่มความปลอดภัยในด้านต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ แล้วการนำระบบ AI ตรวจจับใบหน้าเข้ามาใช้งานนั้น จะอยู่ในรูปแบบไหนบ้าง ตามมาดูกัน

ระบบ Face Recognition

การตรวจสอบบุคคลในการเข้าออกสถานที่

ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบการเข้าออกสถานที่ การระบุสิทธิ์ในการเข้าพื้นที่หวงห้าม การตรวจจับคนร้าย ไปจนถึงการตรวจสอบเครื่องแต่งกายเพื่อความปลอดภัยในพื้นที่อันตราย ซึ่งการนำเทคโนโลยีระบบ AI เปรียบเทียบใบหน้าเข้ามาใช้งาน จะช่วยตอบโจทย์การทำงานในด้านนี้เป็นอย่างมาก เช่น

  • การตรวจสอบการเข้าออกสถานที่: เมื่อกล้องทำการจับใบหน้า AI จะทำการเปรียบเทียบใบหน้า จากนั้นจะระบุชื่อและรายละเอียดของบุคคล เพื่อบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจน เช่น การสแกนใบหน้าเพื่อเข้า-ออกตึกสำนักงาน เป็นต้น
  • การตรวจจับคนร้ายหรือบุคคลต้องห้าม: สำหรับการตรวจจับคนร้ายหรือบุคคลต้องห้ามจำเป็นที่จะต้องมีการบันทึกภาพบุคคลเหล่านั้นเอาไว้ในฐานข้อมูลให้เรียบร้อย และเมื่อกล้องตรวจจับใบหน้าที่บันทึกเอาไว้ ก็จะทำการแจ้งเตือนทันที เพื่อช่วยป้องกันเหตุร้าย และทำการรักษาความปลอดภัยได้ทันที
  • การระบุสิทธิในการเข้าถึงพื้นที่หวงห้าม: ระบบจำเป็นที่จะต้องมีรายชื่อของผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงพื้นที่หวงห้ามนั้น ๆ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ห้องบัญชี ห้องควบคุมระบบ หรือห้องสต็อกสินค้า และหากมีบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในฐานข้อมูลเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม ก็จะมีการแจ้งเตือนผู้บุกรุกแบบเรียลไทม์

การนำไปต่อยอดเพื่อวางแผนกิจกรรมทางการตลาด

ระบบ Face Recognition สามารถนำมาใช้สำหรับทำการตลาดได้ ผ่านการคาดการณ์อายุและเพศของผู้เข้าร่วมกิจกรรมในอีเวนต์ต่าง ๆ เพื่อทำการวิเคราะห์ว่าลูกค้าหยิบหรือเลือกดูสินค้าใดอยู่บ้าง รวมถึงสถานที่หรือจุดใดที่กำลังได้รับความนิยม นอกจากนี้ยังอาจมีการใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับระยะใกล้ร่วมกับเทคโนโลยีการจดจำใบหน้า เพื่อเลือกหรือกำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับจอดิจิทัลที่มีการควบคุมผ่านหลังบ้านอีกครั้งหนึ่ง เพื่อฉายผลิตภัณฑ์ที่ลูกค้ากำลังให้ความสนใจ และทำการโปรโมตโดยการให้ส่วนลดหรือโปรโมชันต่าง ๆ เป็นต้น

การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าอย่างการทำ e-KYC สำหรับช่องทางดิจิทัลต่าง ๆ เพื่อทำการยืนยันตัวตนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่ง e-KYC ย่อมาจาก Electronic Know-Your-Customer ที่จะช่วยในการยืนยันว่ารายการดิจิทัลที่กำลังทำอยู่นั้น เจ้าของธุรกรรมเป็นคนทำเองจริง ๆ ซึ่งการยืนยันตัวตนด้วย AI เปรียบเทียบใบหน้าจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบัญชีหรือการทำธุรกรรมทางการเงินต่าง ๆ เพื่อป้องกันการสวมรอยของเหล่ามิจฉาชีพ และเพิ่มความสะดวกและความรวดเร็วในการทำธุรกรรม 

ในปัจจุบันนี้การทำ e-KYC มีอยู่หลายรูปแบบด้วยกัน หนึ่งในรูปแบบที่เป็นที่นิยมในไทยคือ National Digital ID (NDID) ซึ่งเป็นการยืนยันตัวตนที่มีการเก็บข้อมูลผ่านการพิสูจน์หลักฐานด้วยคนมาก่อนแล้วตามสาขาของธนาคารหรือผู้ให้บริการ รวมถึงระบบอัตลักษณ์ (biometrics)ของแต่ละบุคคล เพื่อรองรับการยืนยันตัวตนทางอิเล็กทรอนิกส์ได้เมื่อมีผู้ต้องการใช้งานการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเมื่อจะทำธุรกรรมต่างๆโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องไปถึงที่สาขา หรืออีกวิธีคือสามารถยืนยันตัวตนโดยใช้ biometric ควบคู่กับการตรวจเช็คข้อมูลจากเอกสารหรือบัตรยืนยันตัวตน เช่น บัตรประชาชน ผ่านทาง face recognition (เทคโนโลยีการจดจำใบหน้า) นอกจากนี้ยังสามารถนำ VDO liveness detection มาใช้ร่วมด้วยเพื่อป้องกันการปลอมแปลงตัวตนโดยนำภายถ่ายผู้อื่นมาใช้ในการยืนยันตัวตน

การยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าเพื่อเพิ่มความปลอดภัย

การยืนยันตัวด้วยการสแกนใบหน้าก่อนเข้าห้องเรียนหรือเข้าทำงาน

ในปัจจุบันนี้ การนำระบบ AI ตรวจจับใบหน้าเข้ามาใช้ภายในโรงเรียน มหาวิทยาลัย หรือแม้กระทั่งการใช้แทนระบบตอกบัตรเข้าทำงาน ยิ่งเป็นการช่วยเพิ่มความโปร่งใส ที่สามารถใช้ยืนยันตัวบุคคล ลดการสัมผัสวัตถุต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการปรับปรุงระบบ Access Control เพื่อทำการตรวจสอบใบหน้าของผู้เข้าออกพื้นที่เหล่านั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจในด้านความปลอดภัยของผู้ใช้งาน 

เรียกได้ว่าเทคโนโลยี AI เปรียบเทียบใบหน้า ที่มีการนำมาใช้งานในหลากหลายรูปแบบนั้นสามารถพัฒนาการทำงานด้านต่าง ๆ ให้สะดวก ปลอดภัย และเป็นอัตโนมัติได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งเทคโนโลยีประเภทนี้นอกจากจะช่วยในการตรวจจับและเปรียบเทียบแล้ว ยังสามารถนำไปต่อยอดการทำงานให้เป็นแบบอัตโนมัติ และมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อีกด้วย หากคุณกำลังมองหาผู้ช่วยในการพัฒนาระบบ Face Recognition สามารถติดต่อสอบถามกับ AI GEN ได้ทันที เพื่อรับคำแนะนำ และหาโซลูชันที่เหมาะสมต่อการใช้งานกับธุรกิจ ติดต่อเลยได้ที่นี่่

AIGEN Live chat