Share

สแกนหน้ายกระดับความปลอดภัย โอนเงินเกิน 50,000 ก็อุ่นใจได้

ธนาคารแห่งประเทศไทย ได้ออกมาตรการใหม่เพื่อเป็นการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยในการทำธุรกรรมออนไลน์ผ่าน Mobile Banking ด้วยการยืนยันตัวตนผ่านเทคโนโลยีสแกนใบหน้า ภายใต้เงื่อนไขการทำธุรกรรม ที่หากมีการโอนเงินเกิน 50,000 บาทต่อครั้ง หรือโอนเงินเกิน 200,000 บาทต่อวัน รวมถึงหากมีปรับวงเงินตั้งแต่ 50,000 บาทขึ้นไปใน Mobile Banking จำเป็นจะต้องยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าทุกครั้ง ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการป้องกันภัยจากการโดนโจรกรรมทางไซเบอร์ที่เริ่มสร้างความเสียหายให้กับประชาชนมากขึ้นทุกวัน ซึ่งมาตรการนี้ได้มีผลบังคับใช้ไปแล้วตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 ที่ผ่านมา

สำหรับบทความนี้ เราจะพาไปรู้ถึงความสำคัญของการยืนยันตัวตนผ่านการสแกนใบหน้าว่ามีความสำคัญอย่างไร และทำไมถึงถูกนำมายกระดับด้านความปลอดภัยให้กับอุตสาหกรรมธนาคารและการเงิน ติดตามได้เลย

โอนเงินเกิน 50,000 ต้องสแกนใบหน้าระบุตัวตน

ขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้า

สำหรับผู้ที่มีแนวโน้มการทำธุรกรรมผ่าน Mobile Banking ที่มียอดโอนเงินเกินกว่า 50,000 บาทต่อครั้ง ต้องทำการสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตน โดยมีขั้นตอนดำเนินการง่าย ๆ กับธนาคารผู้ให้บริการ ดังนี้

  • เดินทางไปยังสาขาธนาคารต้นทางที่ทำเรื่องเปิดบัญชี หรือเปิดบัญชีใหม่
  • เตรียมเอกสารส่วนตัวอย่าง บัตรประจำตัวบัตรประชาชนให้พร้อม รวมถึงเอกสารแสดงตัวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในกรณีที่ทางธนาคารร้องขอเพิ่มเติม
  • กรอกรายละเอียดเพื่อเก็บข้อมูลตัวตนทางกายภาพ และถ่ายรูป เพื่อนำไปใช้เป็นฐานข้อมูล สำหรับการยืนยันตัวตนในระบบดิจิทัล 
  • เริ่มต้นใช้งานได้ทันที โดยจะเป็นการยืนยันตัวตนแบบสองขั้น ทั้งการกรอกรหัส PIN หรือสแกนลายนิ้วมือ หลังจากนั้นจึงทำการสแกนใบหน้าด้วยกล้องมือถือเพื่อระบุตัวตนในขั้นตอนสุดท้าย

โดยธุรกิจประเภทอื่นๆ สามารถนำขั้นตอนการยืนยันตัวตนด้วยการสแกนใบหน้าไปประยุกต์ใช้ได้เช่นกัน โดยที่สามารถออกแบบขั้นตอนการยืนยันตัวตนให้สอดคล้องกับประเภท และความเสี่ยงของการทำธุรกรรมเพื่อยกระดับความปลอดภัยในการทำธุรกรรม และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานแอปพลิเคชันของธุรกิจ

ทำไมต้องยืนยันตัวตนด้วยใบหน้าก่อนทำ 3 ธุรกรรมนี้?

ป้องกันการถูกขโมยเงินในบัญชีโดยบุคคลอื่น 

เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการโดนสวมรอยจากผู้ที่ไม่หวังดี และเข้ามาทำธุรกรรมบน Mobile Banking จนสร้างความเสียหายให้กับเจ้าของบัญชี เทคโนโลยียืนยันตัวคนแบบ Biometrics จะเข้ามาช่วยให้การทำธุรกรรมภายใต้เงื่อนไขใหม่เกิดความอุ่นใจมากยิ่งขึ้น เพราะถ้าหาก Mobile Banking ของเราถูกโจรกรรม และมีการโอนเงินเกิน 50,000 ขึ้นไปต่อครั้งเกิดขึ้น มาตรการสแกนใบหน้าจะเป็นตัวสร้างความเข้มงวดและช่วยป้องกันให้เรารู้ถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นกับบัญชีของเราได้ 

ป้องกันการเปิดบัญชีม้า หรือบัญชีที่รับจ้างเปิดเพื่อให้กลุ่มมิจฉาชีพนำไปใช้

ด้วยมาตรการเก็บข้อมูลทางกายภาพของผู้เปิดบัญชี จะทำให้การปลอมแปลง แอบอ้าง หรือเพื่อสร้างบัญชีม้ากลายเป็นเรื่องยาก อีกทั้งยังสามารถช่วยป้องกันในการนำไปใช้ทำธุรกรรมที่ทุจริตของมิจฉาชีพ หรือคอลเซ็นเตอร์ ปิดประตูความเสี่ยงที่จะโดนคดีจากการเป็นเหยื่อบัญชีม้าเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

โอกาสทางธุรกิจ จากมาตรการยืนยันตัวตนด้วย AI-Face Recognition

นอกจากธุรกิจธนาคารแล้ว กลุ่มธุรกิจที่มีบริการหรือฟังก์ชันเกี่ยวกับการทำธุรกรรมที่ต้องเก็บรักษาข้อมูล ยังสามารถนำเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า (AI-Face Recognition) ไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการยกระดับด้านความปลอดภัยกับบริการที่ต้องเจอกับความเสี่ยง ผ่านการป้องกันความปลอดภัยแบบหลายชั้น เริ่มต้นด้วยการใช้รหัส PIN หรือลายนิ้วมือ พร้อมสแกนใบหน้าเพื่อยืนยันตัวตนในขั้นตอนสุดท้าย เพราะเทคโนโลยีนี้จะสามารถตรวจจับและวิเคราะห์ได้อย่างละเอียด อีกทั้งยังมีความแม่นยำ ที่สำคัญยังสามารถตรวจจับการเคลื่อนไหวได้อย่างอัจฉริยะ ผู้ที่ไม่หวังดีจึงไม่สามารถปลอมตัว หรือใช้รูปภาพปลอมเพื่อมาสวมรอยได้ 

บทบาทสำคัญของเทคโนโลยีการยืนยันตัวตนด้วยใบหน้า

  • ทำธุรกรรมได้รวดเร็วและปลอดภัย: ด้วยการจดจำใบหน้าของระบบ AI จะทำให้ผู้ใช้บริการสามารถเข้าสู่ระบบการทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ที่เป็นไปตามมาตรฐานใหม่ของสถาบันการเงิน ทำให้ธุรกิจสามารถนำข้อดีของเทคโนโลยีเหล่านี้ไปใช้ปรับปรุงระบบ เพื่อสร้างประสบการณ์และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับผู้ใช้บริการ 
  • ป้องกันการปลอมแปลงตัวตน หรือการฉ้อโกง: ด้วยการจดจำใบหน้าของระบบ AI ที่รัดกุม จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงการทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัว พร้อมป้องกันการแอบอ้างตัวตน ด้วยระบบจดจำใบหน้าแบบ Biometric อัจฉริยะ ที่ผู้ใช้จำเป็นจะต้องทำการยืนยันตัวตนหลายขั้นตอน เพื่อปิดช่องโหว่ในการปลอมแปลงตัวตนที่อาจเกิดขึ้น      
  • สร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้บริการ: ด้วยเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าผ่านระบบ AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อสร้างความสะดวกสบายและความเป็นส่วนตัวให้กับผู้ใช้งาน พร้อมตอบสนองด้านความปลอดภัยได้อย่างรัดกุมมากที่สุด จึงทำให้ธุรกิจทุกประเภทสามารถนำไปประยุกต์ใช้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการได้อย่างยั่งยืน    

AIGEN ขอแนะนำ aiFace – เทคโนโลยียืนยันตัวตนด้วยใบหน้า ภายใต้การทำงานของระบบ AI อัจฉริยะที่มีความแม่นยำสูง อีกหนึ่งโซลูชันที่จะช่วยยกระดับความปลอดภัยและมอบประสบการณ์ใช้งานที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้บริการแอปพลิเคชันธุรกิจ สามารถติดต่อเพื่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราเพิ่มเติมได้ที่นี่

AIGEN Live chat