แนะนำ 5 อาชีพที่ AI แทนไม่ได้ แต่ช่วยยกระดับการทำงานได้
แม้ AI จะก้าวหน้าจนช่วยงานหลายอย่างได้รวดเร็วและแม่นยำ แต่ก็มีงานบางประเภทที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร และความเข้าใจของมนุษย์ ทำให้ AI ยังไม่สามารถทำงานเหล่านี้ได้อย่างสมบูรณ์ ลองมาดู 5 อาชีพที่ AI ทำไม่ได้ และยังต้องพึ่งพาทักษะของมนุษย์กัน
1. นักออกแบบและครีเอทีฟ
“นักออกแบบ” ถือเป็นหนึ่งในอาชีพที่ AI แทนไม่ได้ เพราะหัวใจของงานออกแบบไม่ใช่แค่การจัดวางองค์ประกอบหรือเลือกสีให้สวย แต่คือ “การเล่าเรื่องผ่านอารมณ์และประสบการณ์ของมนุษย์” อีกทั้งนักออกแบบยังต้องตีความ ใส่ความรู้สึก ความชอบ และความเชื่อของคนให้กลายเป็นภาพที่สื่อสารได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ยังเข้าไม่ถึง
แต่ถึงแม้ว่า AI จะสามารถสร้างภาพได้ตามคำสั่ง แต่ก็ไม่สามารถเข้าใจเจตนาที่อยู่เบื้องหลังงานศิลป์ได้ เช่น เหตุผลที่ภาพหนึ่งทำให้เรารู้สึกอบอุ่น หรือเหตุผลที่เส้นแบบนี้ถูกวาดออกมาให้มีน้ำหนัก เพื่อสื่อให้เห็นถึงอารมณ์ของภาพ นอกจากนี้ยังมีประเด็นการผสมผสานสไตล์และลายเส้นจากนักวาดหลาย ๆ ราย จนอาจทำให้เกิดงานก๊อบปี้ได้
วิธีที่ AI ช่วยงานได้
ถึงแม้งานศิลป์และการออกแบบ ยังจะต้องพึ่งพามนุษย์เป็นส่วนมาก แต่ AI หลาย ๆ ตัวเริ่มถูกพัฒนาขึ้นเพื่อนำมาใช้เป็น “ผู้ช่วยเบื้องหลัง” ทำให้นักออกแบบทำงานได้ง่ายขึ้น ด้วยฟังก์ชันเหล่านี้
- สร้างภาพร่างหรือแนวคิดเริ่มต้น (Concept Draft)
- ปรับสีหรือจัดองค์ประกอบภาพอย่างรวดเร็ว
- ตรวจสอบความสม่ำเสมอของแบรนด์ในหลายช่องทาง
2. ที่ปรึกษาด้านจิตวิทยาและ Life Coach
ในยุคที่คนต้องการ “ผู้รับฟังจริง ๆ” มากกว่าคำตอบอัตโนมัติ อาชีพนักจิตวิทยาหรือ Life Coach จึงเป็นอีกหนึ่งงานที่ AI ยังทำไม่ได้ เพราะต้องใช้ทักษะทางด้านอารมณ์ (Emotional Intelligence) ความเข้าใจ และความเห็นอกเห็นใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่ AI ยังไม่สามารถทำได้อย่างถ่องแท้ แต่ถึงแม้ AI จะสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมหรือแนวโน้มทางจิตใจได้จากข้อมูล แต่ก็ไม่สามารถปลอบใจคนที่รู้สึกหมดหวัง หรือเข้าใจความซับซ้อนของความสัมพันธ์ระหว่างคนได้ดีเท่าผู้เชี่ยวชาญ
วิธีที่ AI ช่วยงานได้
แม้ว่าการให้คำปรึกษาที่ลึกซึ้งเพื่อช่วยบำบัดจิตใจจะไม่ใช่งานที่ AI ทำได้ดี แต่ก็ยังมีฟังก์ชันบางอย่างที่สามารถนำมาใช้เป็นผู้ช่วยเพื่อให้การทำงานง่ายขึ้นได้ ด้วยฟังก์ชันเหล่านี้
- วิเคราะห์ผลแบบสอบถามทางจิตใจหรือแนวโน้มพฤติกรรม
- สร้างระบบติดตามอารมณ์เพื่อช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินได้เร็วขึ้น
- รวบรวมข้อมูลเพื่อให้ Life Coach ใช้วางแผนการดูแลรายบุคคล
3. ผู้บริหารและผู้นำทีม
ในระดับองค์กร ผู้นำที่ดีไม่ได้มีแค่ความรู้ แต่ต้องมี “สัญชาตญาณมนุษย์” ในการอ่านสถานการณ์และเข้าใจคนรอบข้าง การตัดสินใจที่ซับซ้อน การสร้างแรงบันดาลใจ และการรับมือกับความไม่แน่นอน ล้วนเป็นทักษะที่ไม่มีสูตรสำเร็จให้ AI เรียนรู้ได้โดยตรง
จากบทวิเคราะห์ของ MIT Sloan (2025) ระบุว่า การใช้ AI ในองค์กรจะส่งผลดีก็ต่อเมื่อ ผู้นำมีบทบาทกำหนดทิศทาง วางนโยบาย และสร้างวัฒนธรรมที่เอื้อให้คนกับ AI ทำงานร่วมกันได้อย่างสมดุล ดังนั้น “ผู้นำ” ไม่ใช่คนที่ใช้ AI เก่งที่สุด แต่คือคนที่เข้าใจว่า “เมื่อไหร่ควรใช้ AI และเมื่อไหร่ควรใช้สัญชาตญาณมนุษย์”
วิธีที่ AI ช่วยงานได้
งานที่ AI สามารถรับจบได้ในสาขาอาชีพนี้ ส่วนมากจะเป็นเรื่องการจัดการข้อมูลภายในองค์กร, การจัดระเบียบ และการนำ Data มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ยกตัวอย่างงานที่ใช้ AI เข้ามามีส่วนช่วยในองค์กร เช่น
- รวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงกลยุทธ์แบบเรียลไทม์
- สร้างรายงานและ KPI อัตโนมัติ เพื่อช่วยในการตัดสินใจ
- วิเคราะห์แนวโน้มตลาดหรือความพึงพอใจของทีม
4. นักวิจัยและนักวิเคราะห์เชิงลึก
แม้ในสาขาอาชีพนี้จะมีการประยุกต์ใช้ AI และเทคโนโลยีเข้ามาทำงานมากที่สุด แต่อย่างไรก็ยังคงมีขอบเขตงานที่ AI ทำไม่ได้ นั่นคือการตั้งคำถามใหม่ ๆ ที่ไม่มีใครเคยคิด เพราะการวิจัยไม่ใช่แค่การหาคำตอบจากข้อมูล แต่คือการ “สงสัยในสิ่งที่ยังไม่เคยมีการค้นหาและทดลอง” ซึ่งต้องอาศัยวิจารณญาณและความคิดเชื่อมโยงที่ AI ยังจำลองมาได้ไม่สมจริง
นอกจากนี้ ถึงแม้ AI จะสามารถช่วยวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้ในไม่กี่วินาที แต่การตีความ การเชื่อมโยงข้อมูลกับสังคม วัฒนธรรม และจริยธรรม ยังคงต้องใช้มนุษย์ที่เข้าใจบริบทและผลกระทบในชีวิตจริงอยู่ดี
วิธีที่ AI ช่วยงานได้
งานที่ AI สามารถนำมาช่วยในสาขาอาชีพนี้ จะเป็นเรื่องของการจัดการข้อมูลภายในองค์กร และงานด้านจัดระเบียบ รวมถึงการนำ Data มาใช้ในการทำงาน เช่น
- ช่วยกรองข้อมูลหรือหาความสัมพันธ์ที่ซ่อนอยู่ในชุดข้อมูลขนาดใหญ่
- สร้างแบบจำลอง (Model) ให้มนุษย์ใช้ทดสอบสมมติฐาน
- ช่วยสรุปผลเชิงสถิติและตัวเลขได้รวดเร็ว และทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
5. นักสร้างความสัมพันธ์ลูกค้าและผู้เชี่ยวชาญด้านบริการ
งานบริการและการสร้างความสัมพันธ์เป็นหนึ่งในอาชีพที่ AI ทำไม่ได้ เพราะต้องอาศัยความเข้าใจในอารมณ์ของลูกค้า ความไว้วางใจ และความสามารถในการสื่อสารอย่างเป็นธรรมชาติ การแสดงความเห็นอกเห็นใจในจังหวะที่เหมาะสม เป็นสิ่งที่เทคโนโลยียังไม่สามารถจำลองได้อย่างสมบูรณ์
แม้ว่าในปัจจุบันจะมีการนำ AI มาใช้ในแชตบอท เพื่อช่วยลดระยะเวลาในการบริการลูกค้า ด้วยการตอบคำถามด้วยชุดคำตอบพื้นฐาน แต่อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถสังเกตความพึงพอใจ ความลังเล หรืออารมณ์ของลูกค้าได้เหมือนพนักงานที่ผ่านประสบการณ์จริงมาก่อน
วิธีที่ AI ช่วยงานได้
งานที่ AI สามารถช่วยให้สามารถทำได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และเพิ่มความพึงพอใจให้กับลูกค้าได้ในระยะยาว คือการรับมือกับ Data และวิเคราะห์เชิงลึก เช่น
- จัดการข้อมูลลูกค้าในระบบ CRM และส่งข้อความอัตโนมัติ
- วิเคราะห์ Feedback เพื่อหาจุดที่ควรปรับปรุงในสินค้าและบริการ
- สร้างรายงานแนวโน้มพฤติกรรมลูกค้าเพื่อช่วยทีมพัฒนาการให้บริการ
แนะนำโซลูชันจาก AIGEN ยกระดับงาน AI ให้สะดวกยิ่งกว่า !
แม้หลายอาชีพยังต้องอาศัย “ทักษะของมนุษย์” ที่ AI ไม่อาจทดแทนได้ แต่ในอีกมุมหนึ่ง เทคโนโลยี AI กลับกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้มนุษย์ทำงานได้เร็วขึ้นและแม่นยำขึ้น โดยเฉพาะในงานด้านเอกสารและข้อมูลที่ต้องการความถูกต้องสูง
AIGEN จึงพัฒนาโซลูชัน AI ที่ออกแบบมาเพื่อเสริมศักยภาพมนุษย์ แต่ไม่ใช่มาเพื่อแทนที่ แต่มาเพื่อให้ธุรกิจทุกขนาดสามารถใช้ AI ยกระดับประสิทธิภาพได้จริงในทุกขั้นตอนการทำงาน
aiScript เครื่องมือ OCR อัจฉริยะสำหรับงานเอกสาร
aiScript คือซอฟต์แวร์ OCR ที่พัฒนาโดย AIGEN ด้วยเทคโนโลยี AI ขั้นสูง ช่วยให้การจัดการเอกสารทุกรูปแบบเป็นเรื่องง่ายขึ้น ทั้งเอกสารสแกน ภาพถ่าย หรือแม้แต่ลายมือเขียน
คุณสมบัติเด่น
- อ่านและแปลงภาพเอกสารเป็นข้อความได้อย่างแม่นยำ รองรับทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
- ใช้งานได้กับเอกสารกว่า 20 ประเภท เช่น บัตรประชาชน ใบเสร็จรับเงิน ใบแจ้งหนี้ และสมุดบัญชีธนาคาร
- ไม่ต้องสร้างเทมเพลตของเอกสารล่วงหน้า AI สามารถจำแนกข้อมูล (ชื่อ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ หมายเลขบัญชี ฯลฯ) และจัดเก็บลงตารางอัตโนมัติ
- ลดเวลาการกรอกข้อมูลแบบแมนวล เพิ่มความเร็วและความแม่นยำในการทำงาน
- เชื่อมต่อกับระบบ ERP หรือโปรแกรมบัญชี เช่น SAP และ Salesforce ได้อย่างราบรื่น
นอกจากนี้ยังมี My Template เครื่องมือจาก AIGEN ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการรูปแบบเอกสารได้อย่างยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเอกสารประเภทใด ระบบก็สามารถเรียนรู้โครงสร้างและปรับการทำงานให้เหมาะสมกับการใช้งานของคุณได้โดยอัตโนมัติ
ที่สำคัญช่วยลดขั้นตอนในการตั้งค่าเทมเพลตซ้ำ ๆ และทำให้การประมวลผลข้อมูลร่วมกับ aiScript เป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น สู่การเตรียมพร้อมเพื่อยกระดับความสามารถขององค์กรให้ทำงานได้อย่างราบรื่น ลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน เพิ่มความถูกต้องของข้อมูล และสร้าง Workflow ที่คล่องตัว ตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องจัดการเอกสารจำนวนมากในแต่ละวัน
aiChatbot+ แชตบอตอัจฉริยะเพื่อการบริการที่เหนือระดับ
ในยุคที่ลูกค้าคาดหวังการตอบกลับที่รวดเร็วและเป็นส่วนตัว aiChatbot+ จาก AIGEN คือเครื่องมือที่ช่วยให้องค์กรสร้างระบบตอบสนองอัตโนมัติได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม ด้วยเทคโนโลยี AI ที่เข้าใจภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing)
คุณสมบัติเด่น
- วิเคราะห์ข้อความและตอบกลับลูกค้าได้อย่างแม่นยำ เสมือนคุยกับเจ้าหน้าที่จริง
- รองรับหลายภาษา รวมถึงภาษาไทยและอังกฤษ ทั้งยังสามารถเข้าใจบริบทของคำถาม
- สามารถเชื่อมต่อกับระบบภายในองค์กร เช่น ระบบ CRM หรือฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อให้คำตอบตรงจุด
- สร้าง Workflow การตอบกลับเฉพาะบุคคล (Personalized Response) ได้อย่างยืดหยุ่น
- ใช้งานได้ทั้งในเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น LINE, Facebook Messenger หรือ WhatsApp
aiChatbot+ ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริการลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ลดภาระของทีมซัพพอร์ต และสร้างประสบการณ์การสื่อสารที่ราบรื่นยิ่งขึ้น เหมาะสำหรับองค์กรที่ต้องการยกระดับ Customer Experience ให้เหนือกว่าคู่แข่ง หากสนใจสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ aiChatbot+
aiFlow ระบบ Workflow Automation เพิ่มประสิทธิภาพงานในองค์กร
เมื่อองค์กรเติบโตขึ้น ปริมาณงานและกระบวนการที่ซับซ้อนย่อมเพิ่มขึ้นตามมา aiFlow จาก AIGEN จึงถูกพัฒนาเพื่อช่วยให้องค์กรจัดการ “ขั้นตอนการทำงาน” ได้อย่างมีระบบอัตโนมัติ ตั้งแต่รับข้อมูล ประมวลผล ไปจนถึงการอนุมัติผล
คุณสมบัติเด่น:
- ออกแบบ Workflow ได้ตามโครงสร้างองค์กร รองรับการทำงานหลายแผนกพร้อมกัน
- สร้างระบบอนุมัติอัตโนมัติ เช่น ใบเสนอราคา ใบสั่งซื้อ หรือเอกสารขออนุมัติภายใน
- ติดตามสถานะงานแบบเรียลไทม์ พร้อมแจ้งเตือนเมื่อถึงขั้นตอนถัดไป
- เชื่อมต่อกับซอฟต์แวร์ที่องค์กรใช้อยู่แล้ว เช่น aiScript, ERP หรือระบบบัญชีอื่น ๆ
- วิเคราะห์ขั้นตอนการทำงาน เพื่อเสนอแนวทางปรับปรุงกระบวนการให้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
aiFlow คือหัวใจของการเปลี่ยนจาก “งานแมนนวล” สู่ “องค์กรอัตโนมัติ” ช่วยลดเวลาในกระบวนการทำงาน ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความโปร่งใสในทุกขั้นตอน หากสนใจสามารถดูเพิ่มเติมได้ที่ aiFlow
เสริมศักยภาพการทำงานภายในองค์กร ด้วยโซลูชันจัดการเอกสารอัจฉริยะจาก AI
หากคุณคือผู้บริหารหรือผู้ประกอบการที่ต้องการยกระดับการจัดการเอกสารและข้อมูลให้รวดเร็ว แม่นยำ และลดภาระงานที่ซ้ำซ้อน AI-Powered OCR Solution ช่วยแปลงรูปเป็นข้อความ จาก AIGEN คือโซลูชันที่ตอบโจทย์ ระบบนี้ช่วยให้ธุรกิจอ่านและประมวลผลเอกสารทั้งภาษาไทย อังกฤษ ตัวเลข และลายมือเขียนได้อย่างอัตโนมัติ พร้อมช่วยให้คุณโฟกัสกับงานที่ต้องใช้ทักษะของมนุษย์ สร้างประสิทธิภาพและความได้เปรียบทางการแข่งขัน ติดต่อ AIGEN วันนี้ เพื่อรับคำปรึกษาและทดลองใช้งานจริง
ข้อมูลอ้างอิง
- Leadership and AI insights for 2025: The latest from MIT Sloan Management Review. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 จาก https://mitsloan.mit.edu/ideas-made-to-matter/leadership-and-ai-insights-2025-latest-mit-sloan-management-review
- AI implementation strategies: 4 insights from MIT Sloan Management Review. สืบค้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 จาก https://mitsloan.mit.edu/ideas-made-to-matter/ai-implementation-strategies-4-insights-mit-sloan-management-review
