Share

5 เทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตามองในปี 2023

ธุรกิจต่างต้องเจอกับความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่ และได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงอันน่าเหลือเชื่อในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมานี้ และสิ่งเหล่านี้จะไม่ชะลอตัวลงในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึงนี้ ธุรกิจจะยังต้องจัดการกับปรากฏการณ์หลังโรคระบาดโควิด-19 สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ความท้าทายทางเศรษฐกิจ และการพัฒนาของเทคโนโลยีที่พัฒนาไปอย่างรวดเร็ว โดย Bernard Marr นักเขียน Best seller ชื่อดัง และผู้เชี่ยวชาญในการให้คำปรึกษาในด้านกลยุทธ์ และเทคโนโลยีให้กับธุรกิจชั้นนำทั่วโลกได้สรุป 5 เทรนด์ของธุรกิจที่น่าจับตามองที่จะส่งผลกระทบกับการทำธุรกิจในปี 2023 ที่กำลังจะมาถึงนี้ไว้ในบทความของ Forbes ไว้ วันนี้ AIGEN จะมาสรุปให้ทุกท่านได้รับทราบถึงเทรนด์ทางธุรกิจเหล่านี้ เพื่อนำไปเป็นแนวทาง และไอเดียในการวางแผนกลยุทธ์ของธุรกิจของท่านได้เป็นอย่างดี

เทรนด์ธุรกิจที่น่าจับตามองในปี 2023

5 เทรนด์ธุรกิจสำคัญในปี 2023 ที่คนทำธุรกิจต้องเตรียมพร้อม

1. ตัวเร่งในการทำ Digital transformation

ในปี 2023 นี้เราจะยังคงเห็นนวัตกรรม และการพัฒนาทางเทคโนโลยีใหม่ๆ กันอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยี AI, Internet internet of things (IoT), virtual และ  augmented reality (VR/AR), cloud computing, บล็อกเชน และเครือข่ายความเร็วสูง 5G ยิ่งไปกว่านั้นคือเทคโนโลยี Digital transformation เหล่านี้ไม่ได้อยู่แยกกันอีกต่อไป และเราจะได้เห็นว่าขอบเขตระหว่างแต่ละเทคโนโลยีนั้นมีน้อยลง โซลูใหม่ที่จะช่วยยกระดับการทำงานทั้งแบบไฮบริด และการทำงานทางไกล การตัดสินใจทางธุรกิจ และระบบการทำงานแบบอัตโนมัติจะช่วยผสมผสานเทคโนโลยีเหล่านี้ในลักษณะที่ช่วยให้สามารถปรับปรุงรูปแบบการทำงานให้ดียิ่งขึ้นได้ ด้วยเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้เราทำงานได้ใกล้ชิดกันจนถึงขนาดที่ว่าสามารถสร้างเป็น “องค์กรอัจฉริยะ” ได้ที่ระบบ และขั้นตอนการทำงานสนับสนุนซึ่งกันและกันจนสามารถทำให้งานที่เป็นรูทีนเสร็จสิ้นได้ด้วยวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

เพื่อที่เตรียมพร้อมกับสิ่งเหล่านี้ธุรกิจจะต้องมั่นใจว่าพวกเขาได้ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมในตลอดกระบวนการ และการทำงานในทุกๆ ด้าน ในจุดนี้ทำให้ธุรกิจมีข้อแก้ตัวน้อยมากสำหรับการดำเนินธุรกิจ และไม่เข้าใจว่า AI และเทคโนโลยีอื่น ๆ ที่กล่าวถึงข้างต้นจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ และอุตสาหกรรมของคุณอย่างไร การขายและการตลาดที่มีประสิทธิภาพ ยกระดับการให้บริการลูกค้า ระบบ Supply chain ที่มีประสิทธิภาพ สินค้าและบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากขึ้น กระบวนการผลิตที่คล่องตัวจะเป็นเรื่องที่ธุรกิจให้ความสำคัญ และในปี 2023 อุปสรรคในการเข้าถึงเทคโนโลยีเหล่านี้จะน้อยลงกว่าเดิมมาก เนื่องจากเทคโนโลยีหลายๆ อย่าง ตัวอย่างเช่น AI  และบล็อกเชน มีให้บริการในรูปแบบของ As-a-service ผ่านทางคลาวด์ และ Interface ใหม่ๆ หรือแอปพลิเคชันที่ทำให้ธุรกิจเข้าถึงเทคโนโลยีในรูปแบบของ Low-code ได้

2. ความปลอดภัยของเงินเฟ้อ และห่วงโซ่อุปทาน

ภาพของเศรษฐกิจทั่วโลกในปี 2023 ยังไม่ได้ดูดีมากนัก โดยผู้เชี่ยวชาญได้ออกมาคาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงมีอยู่อย่างต่อเนื่อง และอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ซบเซา หลายๆ อุตสาหกรรมยังคงประสบปัญหาเรื่อง Supply chain ที่เกิดขึ้นในช่วงการปิดประเทศตอนสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 และยิ่งแย่เข้าไปอีกจากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน เพื่อที่จะต่อสู้ และก้าวข้ามผ่านสิ่งนี้ไปได้ ธุรกิจจำเป็นต้องยกระดับเรื่องความยืดหยุ่นในการปรับตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ นั่นหมายถึงว่าลดผลกระทบที่จะได้รับจากราคาตลาดที่ผันผวน และสร้างมาตรการป้องกันสำหรับเรื่อง Supply chain เพื่อที่จะจัดการกับการขาดแคลนสินค้า และค่าขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้น

จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ธุรกิจจะต้องกางแผน Supply chain ของธุรกิจออกมาทั้งหมด และระบุถึงความเสี่ยงด้านอุปทานและอัตราเงินเฟ้อ ด้วยวิธีนี้ทำให้ธุรกิจสามารถหาวิธีลดความเสี่ยงในเรื่องเหล่านี้ลงได้ ตัวอย่างเช่น หาซัพพลายเออร์ทางเลือก หรือพึ่งพาตนเองมากขึ้น เป็นต้น

3. ความยั่งยืนทางธุรกิจ

โลกกำลังตื่นตัวมากขึ้นกับความจริงที่ว่าภัยพิบัติจากสภาพอากาศจะทำให้เกิดความท้าทายครั้งยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่เราได้เคยประสบในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา และได้บดบังความท้าทายที่ต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดของโควิด-19 นั่นหมายถึงว่านักลงทุน และผู้บริโภคเลือกที่จะลงทุน และซื้อสินค้าจากธุรกิจที่ได้รับการรับรองเรื่องสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม และเทรนด์การซื้อสินค้าเหล่านี้ถูกขับเคลื่อนโดยผู้บริโภคที่ใส่ใจ โดยเป็นผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับปัจจัยในการตัดสินใจซื้อ ตัวอย่างเช่น ผลกระทบต่อระบบนิเวศ และความยั่งยืนเมื่อต้องเลือกซื้อสินค้า และบริการ หรือต้องทำธุรกิจด้วย

ในปี 2023 นี้ บริษัทจำเป็นต้องแน่ใจว่าเรื่องของกระบวนการสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) นั้นได้มาเป็นศูนย์กลางกลยุทธ์ของธุรกิจ โดยเริ่มต้นจากประเมินผลกระทบของธุรกิจที่มีต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม หลังจากนั้นให้ไปโฟกัสที่ความโปร่งใส ระบบการรายงาน และความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม ทุกธุรกิจจำเป็นต้องมีแผนพร้อมกับเป้าหมาย และระยะเวลาที่ชัดเจนในการที่จะลดผลกระทบในเชิงลบที่มีต่อสังคม และสิ่งแวดล้อม หลังจากนั้นแผนงานจำเป็นต้องมีแผนการดำเนินงาน (Action plan) ที่ชัดเจน รวมถึงการประเมิน และแผนงานควรทำเกินกว่าเฉพาะขอบเขตของบริษัทเอง และควรครอบคลุมห่วงโซ่อุปทาน (Supply chain) ทั้งหมดของบริษัท รวมถึงมีข้อมูลรับรอง ESG ของซัพพลายเออร์ ตัวอย่างเช่น เป็นเรื่องง่ายที่ธุรกิจอาจจะลืมผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมของธุรกิจผู้ให้บริการคลาวด์ และผลกระทบของ Data center ที่มีต่อสิ่งแวดล้อม

ความยั่งยืนทางธุรกิจอีกหนึ่งเทรนด์ธุรกิจที่สำคัญในปี 2023

4. ประสบการณ์ลูกค้าที่ดื่มด่ำ

ในปี 2023 นี้ ลูกค้าต่างต้องการประสบการณ์เหนือสิ่งอื่นใด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องการเรื่องของราคา และคุณภาพจะลดน้อยลงไป ทั้งสองอย่างนี้ต่างมีบทบาทสำคัญทั้งในเรื่องของประสบการณ์ของขั้นตอนการเลือกซื้อสินค้า ขั้นตอนการซื้อสินค้า และเพลิดเพลินกับสินค้าและบริการที่เราได้ใช้เงินซื้อ

ตามธรรมเนียมแล้วเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทในการยกระดับขั้นตอนการทำงาน และช่วยลดความยุ่งยากในชีวิตให้กับผู้บริโภค ให้คิดถึงระบบคำแนะนำในแพลตฟอร์ม E-commerce ที่ช่วยเราเลือกว่าจะซื้ออะไร หรือระบบ Porta ที่ให้บริการลูกค้าทางออนไลน์ที่ช่วยจัดการกับปัญหา และบริการหลังการขาย สิ่งเหล่านี้จะยังคงมีบทบาทสำคัญในปี 2023  แต่เกมได้พัฒนาไปแล้ว โดยคีย์เวิร์ดหลักของปีนี้ คือการดื่มด่ำและการโต้ตอบ

เมตาเวิร์ส (Metaverse) เป็นคำที่ใช้โดยนักอนาคตนิยมที่ใช้ในการอธิบาย “ขั้นถัดไป” ของอินเตอร์เน็ตที่เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ และผู้บริโภคผ่านเทคโนโลยีขั้นสูงเหล่านี้ได้ รวมถึงเทคโนโลยี 3D และ Virtual reality โดยเทคโนโลยีเหล่านี้จะเข้ามามีบทบาทสำคัญ ลองคิดถึงร้านค้าออนไลน์ที่เราสามารถค้นหา และลองเสื้อผ้า เครื่องประดับ และจิวเวอรี่ต่างๆ แบบเสมือนได้ เราอาจจะใช้ห้องลองเสื้อผ้าเสมือนเพื่อที่จะลองแต่งตัวให้กับอวาตาร์ของตัวเราได้เอง เหมือนกับโปรเจคริเริ่มของแบรนด์ Hugo Boss หรืออาจจะเกี่ยวข้องกับ AR หรือ Augment reality ที่ Walmart ได้นำไปใช้เพื่อที่จะดูได้ว่าเสื้อผ้านั้นเหมาะกับรูปร่างจริงๆ ของเราหรือไม่ โดยเทรนด์เหล่านี้จะส่งผลกระทบกับทั้งร้านแบบออนไลน์ และออฟไลน์

เทรนด์การสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้ามีความสำคัญเป็นอย่างมากจนกระทั่งบริษัท Adobe และ Adweek ได้แต่งตั้งตำแหน่ง Chief experience officer (CXO) เพื่อให้มั่นใจว่าสิ่งนี้เป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ทางธุรกิจ เช่นเดียวกันกับการสร้างประสบการณ์ลูกค้า ธุรกิจจำเป็นต้องให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของพนักงาน เนื่องจากการแข่งขันในการเฟ้นตัวหา Talent ของแต่ละธุรกิจมีความเข้มข้น และรุนแรงมากยิ่งขึ้น

5. ความท้าทายในการหาพนักงานที่มีความสามารถ

เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมาเราได้เห็นการเคลื่อนไหวครั้งยิ่งใหญ่ของพนักงานที่มีความสามารถที่เรียกกันว่าการลาออกครั้งยิ่งใหญ่ และการลาออกอย่างเงียบๆ เนื่องจากพนักงานได้ประเมินผลกระทบจากการทำงาน และสิ่งที่พวกเขาต้องการจากชีวิต สิ่งนี้ได้สร้างแรงกดดันต่อนายจ้างว่านายจ้างได้จัดหาสิ่งที่น่าดึงดูดใจในการทำงาน วิธีการทำงานแบบไฮบริด และสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดึงดูดใจ รวมถึงวัฒนธรรมองค์กร นำเสนอสิ่งที่เติมเต็มชีวิตการทำงานของพนักงาน ให้โอกาสในการเรียนรู้ และเติบโต มีความยืดหยุ่น และหลากหลาย สถานที่ทำงานที่เน้นเรื่องคุณค่าเป็นสำคัญจะเป็นสิ่งที่สำคัญในปี 2023 

ยิ่งไปกว่านั้นอัตราเร่งของ Digital transformation (เทรนด์ที่ได้กล่าวไปข้างต้น) ได้นำมาสู่การทำงานแบบอัตโนมัติมากยิ่งขึ้นที่จะเข้ามาช่วยยกระดับการทำงานในเกือบทุกงานบนโลกใบนี้ ทำให้คนต้องทำงานร่วมกับเครื่องจักรอัจฉริยะ และหุ่นยนต์อัจฉริยะกันมากยิ่งขึ้นซึ่งมีผลอย่างมากต่อทักษะ และความสามารถที่บริษัทต่างๆ ต้องการในอนาคต นั่นหมายถึงการเพิ่มทักษะใหม่ (Reskill) และการพัฒนาทักษะเดิม (Upskill) ให้กับพนักงานในปัจจุบัน ตลอดจนการสรรหาบุคลากรใหม่ที่มีทักษะที่จำเป็นสำหรับอนาคต

ในอีกมุมหนึ่งธุรกิจจะต้องจัดการกับช่องว่างด้านทักษะที่มีอยู่มากมายในสาขาต่างๆ เช่น Data science AI และเทคโนโลยีอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าพวกเขาได้สร้างทีมข้อมูล และทีมเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อความสำเร็จของธุรกิจในอนาคต และในอีกด้านหนึ่งเมื่องานของคนได้นำเทคโนโลยีมาช่วยในการทำงานมากยิ่งขึ้นทำให้ธุรกิจต้องเทรนพนักงานในปัจจุบันเพื่อให้มีทักษะที่จำเป็นที่ต้องทำงานกับระบบอัจฉริยะต่างๆ และเสริมสร้างทักษะเฉพาะตัวที่ในปัจจุบันไม่สามารถใช้ระบบ หรือเครื่องจักรทำงานแทนได้ ในปี 2023 ทักษะที่สำคัญได้แก่ ความคิดสร้างสรรค์ ทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking) การสื่อสารระหว่างบุคคล ความเป็นผู้นำ และมนุษยธรรม เช่น ความใส่ใจ และความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

เตรียมพร้อมธุรกิจในปี 2023

ยกระดับธุรกิจของคุณด้วยเทคโนโลยี AI

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจในปัจจุบัน และถือเป็นส่วนสำคัญในการทำ Digital transformation โดยเฉพาะเทคโนโลยี AI ที่ได้เป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถ และยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้กับธุรกิจ ตอบโจทย์เทรนด์ธุรกิจ และความต้องการผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ผู้เชี่ยวชาญของ AIGEN ยินดีให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน การออกแบบขั้นตอนการทำงาน จนถึงการนำการนำโซลูชัน AI ไปใช้งานให้ประสบผลสำเร็จ ติดต่อเพื่อพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่

AIGEN Live chat