รู้จักกับระบบ Intelligent search ตัวช่วยสำคัญในการค้นหาข้อมูลของธุรกิจ
ในยุคที่ธุรกิจใช้ข้อมูลเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญทำให้นอกจากจะทำให้นอกจากธุรกิจมีข้อมูลที่นำไปใช้ประโยชน์ต่อได้แล้วนั้น การจัดเก็บ และการเข้าถึงข้อมูลก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่แพ้กัน เพื่อให้ข้อมูลรวบรวมไว้ในฐานข้อมูลเดียวกัน และพนักงานสามารถเข้าถึง และค้นหาข้อมูลได้อย่างสะดวก รวดเร็ว จากเดิมเวลาที่พนักงานต้องการที่จะรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการทำงานอาจจะต้องใช้วิธีถามเพื่อนร่วมงาน ค้นหาข้อมูลในอีเมล หรือโฟลเดอร์งานต่างๆ หรือแม้กระทั่งเข้าไปในระบบงานที่มีอยู่หลายระบบ ซึ่งจากผลสำรวจของ Mckinsey พบว่าพนักงานใช้เวลาถึง 9.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ ภายในองค์กร หรือถ้าลูกค้าต้องการเข้ามาค้นหาข้อมูลเกี่ยวขั้นตอนการใช้สินค้า หรือวิธีแก้ไขปัญหาที่ลูกค้ากำลังประสบอยู่ในระบบ Customer self-service แล้วไม่เจอข้อมูลที่ต้องการ หรือเจอข้อมูลแต่ไม่ใช้ข้อมูลที่ช่วยลูกค้าได้ทำให้ลูกค้ามีประสบการณ์ที่ไม่ดีกับธุรกิจจนอาจจะเปลี่ยนไปใช้เจ้าอื่นได้
ระบบ Intelligent search จึงได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำธุรกิจยุคใหม่ เพื่อทำให้การค้นหาข้อมูลภายใน และภายนอกองค์กรทำได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาข้อมูล และสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับทั้งพนักงาน และลูกค้าที่มาใช้บริการด้วยการนำเสนอข้อมูลที่ตอบโจทย์ที่สามารถช่วยพนักงาน หรือลูกค้าในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเองได้เป็นอย่างดี ในบทความนี้ AIGEN จะพามาทำความรู้จักกับระบบ Intelligent search กันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นแนวทางให้ธุรกิจยุคใหม่นำไปปรับใช้ได้
Intelligent search คืออะไร
ระบบ Intelligent search หรือระบบการค้นหาอัจฉริยะคือกระบวนในการระบุที่อยู่ของข้อมูลที่ทำการค้นหาให้ได้ตามที่ต้องการอย่างรวดเร็วโดยมีเทคโนโลยี AI เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญ ไม่ว่าข้อมูลนั้นจะถูกจัดเก็บอยู่ที่ไหน โดยจะช่วยกำจัด Data silos และช่วยให้พนักงาน และลูกค้าสามารถหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว และง่ายดาย ผู้ใช้งานสามารถใช้ระบบ Intelligent search ในการดึงข้อมูลที่ต้องการได้จากทุกที่ (ทั้งข้อมูลภายใน และภายนอกองค์กร) และทุกรูปแบบการจัดเก็บข้อมูล ไม่ว่าจะเป็น Big data ที่จัดเก็บในฐานข้อมูล ระบบการจัดการเอกสาร คอนเทนต์ดิจิทัล เว็บไซต์ กระดาษ และที่อื่นๆ ระบบ Intelligent search กับ Enterprise search นั้นมีความหมายที่เหมือนกันกับการค้นหาด้วยภาษาธรรมชาติ ระบบค้นหา AI หรือระบบค้นหาที่มี AI เป็นตัวขับเคลื่อน และ AI ที่เข้าใจในบริบทของเนื้อหา
Intelligent search VS การค้นหาข้อมูลรูปแบบเดิม
ธุรกิจไม่สามารถที่จะใช้ Google หรือวิธีการค้นหาข้อมูลแบบเดิมเพื่อที่จะหาคำตอบที่เฉพาะเจาะจงของธุรกิจได้ ตัวอย่างเช่น ทำไมการขนส่งสินค้าใหม่ของธุรกิจถึงล่าช้า? หรือความท้าทายที่ลูกค้าต้องเจอที่ธุรกิจได้รับการรายงานสูงสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้วคือเรื่องอะไร? สิ่งที่ทำให้ระบบ Intelligent search แตกต่างกับ Search engine และ Web search คือ Intelligent search สามารถแสดงข้อมูล และคำตอบเฉพาะสำหรับธุรกิจของคุณได้
เทคโนโลยี AI ขับเคลื่อนทำให้ระบบ Intelligent search มีเครื่องมือ และความสามารถดังต่อไปนี้
- เข้าใจภาษามนุษย์ : ข้อมูลทางธุรกิจมีการอัปเดตอยู่เสมอ และมักจะเขียนด้วยคำศัพท์เฉพาะของแต่ละธุรกิจ ด้วยความสามารถของเทคโนโลยี NLP ทำให้ระบบ Intelligent search สามารถที่จะเข้าใจ และค้นหาดิจิทัลคอนเทนต์ได้จากแหล่งข้อมูลหลากหลายแห่ง การค้นหาในสิ่งที่มีความสัมพันธ์กัน (Semantic search) และการเข้าใจบริบทช่วยให้ระบบการค้นหาอัจฉริยะสามารถแยกแยะความแตกต่างทางภาษา คำพ้องความหมาย และความสัมพันธ์ของภาษาที่สามารถพบได้ในภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และในเอกสารที่มีความซับซ้อน
- เรียนรู้โครงสร้างเอกสาร : เครื่องมือ Intelligent tools นั้นมีความสามารถทางด้าน AI ที่เข้าใจการอ่านข้อมูลจากเอกสารที่ขยายไปการเข้าใจเอกสารได้จากหลากหลายแหล่งข้อมูล เทคโนโลยี Machine learning ทำให้ Intelligent search สามารถที่จะเรียนรู้ภาพโครงสร้างของเอกสารเฉพาะของแต่ละองค์กร อุตสาหกรรม และวิชาชีพ ด้วยความสามารถในการประมวลผลเอกสารเหล่านี้ทำให้ระบบค้นหาอัจฉริยะสามารถเรียนรู้ และระบุองค์ประกอบต่างๆ ในเอกสารได้อย่างรวดเร็ว เช่น ส่วนหัว ส่วนท้าย แผนภูมิ และตาราง นอกจากนั้นด้วยความสามารถขั้นสูงยังสามารถที่จะระบุประเภทของเอกสารได้ เช่น สัญญา ใบสั่งซื้อสินค้า และใบแจ้งหนี้ เป็นต้น
- ใช้ประโยชน์จาก Machine learning : ด้วยเทคโนโลยี Machine learning และ Deep learning ได้สร้างคำแนะนำในการค้นหาให้เป็นไปอย่างราบรื่น และปรับปรุงความเกี่ยวข้องของผลการค้นหาอย่างต่อเนื่องเมื่อเวลาผ่านไป โดยคาดการณ์ได้ว่าข้อมูลใดที่จะตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้มากที่สุด
- คัดกรองผลการค้นหา : การค้นหาแบบแยกส่วน และการคัดกรองจะจำกัดขอบเขตให้แคบลงและค้นหาข้อมูลเฉพาะในข้อมูลที่ได้รวบรวมไว้
- จำแนก และจัดหมวดหมู่เนื้อหา : การไฮไลท์ข้อมูลที่ต้องการแบบอัตโนมัติจะค้นหา และจำแนกองค์ประกอบของข้อความตามหมวดหมู่ที่ได้กำหนดไว้ล่วงหน้า เช่น ชื่อบุคคล สินค้า ประเภทสินค้า หรือธุรกิจ
Intelligent search ทำงานอย่างไร?
- เชื่อมต่อแหล่งข้อมูล และนำเข้าข้อมูล : เพื่อที่จะตอบคำถาม และข้อมูลเชิงลึกได้จากทุกที่ ธุรกิจจำเป็นต้องเชื่อมต่อ และดึงข้อมูลได้ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นข้อมูล Structured หรือ Unstructured data
- จัดทำดัชนีคอนเทนต์ : การจัดดัชนีคอนเทนต์ทำให้เกิดเป็นดัชนีการค้นหารวมเป็นหนึ่งเดียวกันทำให้สามารถจัดลำดับผลของการค้นหาได้โดยต้องคำนึงถึงแหล่งที่มาของคอนเทนต์
- เพิ่มคุณค่าคอนเทนต์ : ความสามารถในการค้นหา และดึงข้อมูลเชิงลึกที่ต้องการขึ้นอยู่กับความสามารถในการดึงคำอธิบายของชุดข้อมูล (Metadata) จากคอนเทนต์ หรือเนื้อหาที่มีอยู่ ธุรกิจสามารถเพิ่มเนื้อหาของคอนเทนต์ได้โดยใช้ประโยชน์จากการประมวลผลของเทคโนโลยี NLP ขั้นสูง เช่น การไฮไลท์ข้อมูลที่ต้องการแบบอัตโนมัติ และการวิเคราะห์ความรู้สึก เพื่อที่จะจัดหมวดหมู่ และระบุเนื้อหาที่สำคัญได้
- วิเคราะห์คอนเทนต์ : รู้จักเนื้อหาในเอกสารประเภทต่างๆ จัดประเภทของข้อมูล และสร้างความสัมพันธ์ในเชิงความหมายระหว่างบุคคล และเนื้อหาในคอนเทนต์นั้นๆ
- ให้คำตอบ และแสดงข้อมูลเชิงลึก : อัลกอริทึมการให้คะแนนแบบอัจฉริยะนั้นจะจัดลำดับข้อความ และแสดงข้อความที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมากที่สุดในการตอบคำถาม
รูปแบบของ Intelligent search
ระบบ Intelligent search จะเปรียบเทียบคำในการค้นหาด้วยการประมวลผลภาษาธรรมชาติกับคอนเทนต์ที่ได้มีการจัดลำดับไว้
- คำถาม : ปีนี้ฉันสามารถลาพักร้อนได้กี่วัน?
- วลี และคำสั่ง : ฉันกำลังยื่นขอสินเชื่อที่อยู่อาศัย
- คีย์เวิร์ด : อัตราค่าเบี้ยประกัน
ประโยชน์ของการนำ Intelligent search มาใช้งานกับธุรกิจ
1. ค้นพบข้อมูลเชิงลึกที่ส่งผลต่อการตัดสินใจ
จะมีข้อมูลเชิงลึกซ่อนอยู่ในข้อมูล Unstructured ของธุรกิจอยู่เสมอ ระบบ Intelligent search ใช้การประมวลผลภาษาธรรมชาติ หรือ NLP ในการเข้าใจความหมาย และหาความสัมพันธ์ในแต่ละแหล่งข้อมูล เช่น โซเชียลมีเดีย ฟีดแบคจากลูกค้า รายงาน E-commerce และบันทึกการบำรุงรักษา เพื่อที่จะเปิดเผยถึงข้อมูลเชิงลึกได้ด้วยความรวดเร็ว และแม่นยำ
2. แสดงข้อมูลที่เกี่ยวข้องให้กับพนักงานด้วยเพียงปลายนิ้ว
ธุรกิจสามารถนำระบบ Intelligent search ไปใช้ในการสร้างแพลตฟอร์มการค้นหาของธุรกิจเอง ระบบ Knowledge mamagement ระบบ Content management หรือระบบถาม-ตอบ เพื่อมอบประสบการณ์การทำงานที่น่าประทับใจให้กับพนักงาน
3. ให้บริการลูกค้าจำนวนมากได้เป็นอย่างดี
ให้ข้อมูลที่ถูกต้องกับลูกค้าได้ในทุกครั้งที่ลูกค้าติดต่อเข้ามา และมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ ลูกค้าต้องการมากกว่าแค่ FAQ ในตอนนี้ลูกค้าต้องการระบบ Self-service เต็มรูปแบบบนเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันของธุรกิจ ด้วยผู้ให้บริการเสมือน และระบบค้นหาอัจฉริยะทำให้ลูกค้า หรือผู้ใช้งานสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยตนเอง การที่ลูกค้าพึ่งพาตนเองได้ส่งผลให้ต้นทุนลดลง และยกระดับความพึงพอใจของลูกค้าให้สูงขึ้นได้อีกด้วย
ตัวอย่างการนำระบบ Intelligent search ไปใช้งานกับธุรกิจ
ธุรกิจเก็บเอกสาร และข้อมูลไว้ในหลากหลายที่ทั้งข้อมูลที่เป็น Structure และ Unstructured ซึ่งโดยเฉลี่ยแล้วพนักงานต้องใช้เวลาถึง 9.3 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ในการค้นหาข้อมูลต่างๆ ภายในองค์กร
การค้นหาข้อมูลเชิงลึก และคำตอบสำหรับข้อมูลแบบ Unstructured ภายในธุรกิจจึงควรเป็นเรื่องที่ง่าย ถึงเวลาแล้วที่ธุรกิจของคุณจะเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลด้วยระบบ Intelligent search หรือระบบค้นหาอัจฉริยะ
- ประหยัดเวลา : ธนาคาร และสถาบันการเงินต่างๆ สามารถทำให้การค้นหาข้อมูลทำได้โดยอัตโนมัติเพื่อที่ทำให้งานที่แต่เดิมต้องใช้เวลาทำ 10 วันสามารถทำได้เสร็จภายใน 2 นาที
- ประหยัดเงิน : บริษัทพลังงานสามารถประหยัดเงินได้มากกว่า 10 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ หรือประมาณ 360 ล้านบาทในการลดเวลาในการค้นหาข้อมูลภายในองค์กรด้วยระบบ Knowledge management
- ประหยัดทรัพยากรบุคคล : บริษัทประกันสามารถลดปริมาณงานในการอ่าน และการวิเคราะห์ข้อมูลภายในได้มากกว่า 90%
- เพิ่มรายได้ให้กับธุรกิจ : บริษัทกฎหมายได้นำระบบ Intelligent search ไปใช้งานเพื่อนยกระดับกระบวนการทำงาน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้ถึง 4 เท่าตัว และสร้างรายได้เพิ่มขึ้นได้มากกว่า 30%
ระบบ Intelligent search จาก AIGEN
ระบบ Intelligent search ถือเป็นหนึ่งในฟังก์ชันสำคัญของโซลูชัน AI-Powered Knowledge management system ที่ทาง AIGEN ได้พัฒนาขึ้น โดยมีเทคโนโลยี NLP เป็นผู้อยู่เบื้องหลังสำคัญทำให้การค้นหาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ สะดวก รวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถเทรนให้ระบบสามารถเข้าใจคำศัพท์เฉพาะของแต่ละธุรกิจได้ ทำให้สามารถเข้าใจบริบทของคำ หรือประโยคที่คนใช้ในการค้นหาได้เป็นอย่างดี ซึ่งจะทำให้เวลาที่พนักงาน หรือลูกค้าใช้ในการค้นหาข้อมูลลดลง และทำให้พนักงานได้คำตอบ หรือข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยจุดเด่นของระบบ Intelligent search ของ AIGEN มีดังต่อไปนี้
- จัดทำดัชนีเนื้อหาได้อย่างละเอียดในไฟล์ทุกประเภท และแจ้งถึงแหล่งที่มาของข้อมูล เพื่อให้ทุกอย่างสามารถค้นหาได้
- เข้าใจคำศัพท์เฉพาะของแต่ละธุรกิจผ่านทางการเทรนโมเดล AI ได้
- ไฮไลท์คำตอบที่ตรงตามประโยค หรือคีย์เวิร์ดที่ลูกค้าใช้การค้นหา
- อัปเดตคอนเทนต์ได้อย่างสะดวก และรวดเร็วผ่านระบบ Content management system
- เชื่อมต่อกับ Live chat บนเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันที่ใช้ในการสื่อสารของธุรกิจได้ เช่น Line และ Facebook messenger
ต้องการนำระบบ Intelligent search มาใช้กับธุรกิจ
ระบบ Intelligent search เป็นระบบที่จะเข้ามายกระดับให้การค้นหาข้อมูลภายในองค์กรมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทำให้พนักงาน และลูกค้าสามารถค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างสะดวก และรวดเร็ว อีกทั้งยังช่วยยกระดับประสบการณ์ในการให้บริการลูกค้าด้วยระบบ Customer self-service ที่ทันสมัย และช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ด้วยตนเอง
หากธุรกิจของคุณกำลังมองหาระบบ Intelligent search ไปใช้งานเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการค้นหาข้อมูลของธุรกิจ และตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ที่ต้องการข้อมูลเพื่อให้บริการตนเองได้ ผู้เชี่ยวชาญของ AIGEN ยินดีให้คำปรึกษาตั้งแต่ขั้นตอนการวางแผน และการออกแบบระบบ จนถึงการนำระบบ Intelligent search ไปใช้งานให้ตอบโจทย์ธุรกิจ และประสบผลสำเร็จ ด้วยประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญการให้บริการโซลูชัน AI มากับหลากหลายธุรกิจ สามารถติดต่อเพื่อปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญของเราได้ที่นี่
ทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน AI อัจฉริยะ พร้อมช่วยขับเคลื่อนการทำงานของธุรกิจ มีประสบการณ์ให้บริการโซลูชัน AI เพื่อองค์กรระดับประเทศมากมาย