Share

โลกการทำงานในยุค AI : ความเป็นจริงวันนี้ และภาพอนาคตที่น่าจับตามอง

ท่ามกลางกระแสการพูดถึงศักยภาพของ AI ที่อาจเข้ามาแทนที่งานของมนุษย์ บทความนี้ผมจะพาไปสำรวจสถานการณ์การทำงานในปัจจุบัน พร้อมทั้งคาดการณ์ทิศทางที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้

บุคคลสำคัญในวงการเทคโนโลยีอย่าง Dario Amodei จาก Anthropic และ Jensen Huang จาก NVIDIA ต่างก็เคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแทนที่งานจำนวนมากจากการพัฒนา AI แต่ในความเป็นจริงสำหรับภาคธุรกิจในปัจจุบัน เรายังไม่เห็นความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างการนำ AI มาใช้กับการปลดพนักงานครั้งใหญ่ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะต้นทุนในการเปลี่ยนผ่านยังคงสูง ประกอบกับองค์กรเองก็พยายามหลีกเลี่ยงภาพลักษณ์ด้านลบจากสังคม

Large Language Model (โมเดลภาษาขนาดใหญ่)

นอกจากนี้ ศักยภาพของ AI ที่มีอยู่ในปัจจุบันยังคงจำกัดอยู่ในงานเฉพาะด้านเท่านั้น แม้แต่โมเดลภาษาใหญ่ (LLM) ที่สามารถให้เหตุผลหรือทำงานในหลายด้าน ก็ยังถูกวิจารณ์เรื่องความผิดพลาด การสร้างข้อมูลผิดเพี้ยน และความไม่แน่นอนเมื่อนำไปใช้ในสภาพแวดล้อมธุรกิจจริง ด้วยเหตุนี้ ผู้ใช้งานจึงมักปฏิเสธแม้กระทั่งอัตราความผิดพลาดเพียง 5-10% และเลือกที่จะทำงานเองตามเดิม

ความเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาและความเข้าใจ โดยเฉพาะเมื่อองค์กรต้องตัดสินใจยอมรับความเสี่ยง เช่น การยอมให้มีความผิดพลาดเล็กน้อยในงานดึงข้อมูลจากเอกสาร การใช้แชทบอทตอบคำถามที่อาจตอบผิดบ้าง หรือระบบตรวจจับการฉ้อโกงที่แจ้งเตือนเกินความจำเป็น สิ่งเหล่านี้ยังคงถูกมองว่าเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่า

Agentic AI คือ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีความสามารถในการทำงานอย่างเป็นอิสระและตัดสินใจด้วยตนเอง

แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ คือความก้าวหน้าของ AI ที่พัฒนาเร็วขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะแนวคิด Agentic AI ที่สามารถวางแผน ดำเนินงาน ใช้เครื่องมือเสริม และปรับปรุงคำตอบของตัวเองได้แบบอัตโนมัติ หาก AI ประเภทนี้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แม้จะมีอัตราความผิดพลาดเพียง 5-10% เหมือนเดิม เหตุผลในการปฏิเสธการใช้ AI แทนแรงงานมนุษย์ก็อาจจะลดน้อยลงไปเรื่อย ๆ แม้แต่ในสายตาขององค์กรที่พยายามรักษาภาพลักษณ์ว่าเป็นมิตรกับพนักงานก็ตาม

สายงานโปรแกรมเมอร์

*อย่างไรก็ตาม กลับมีข้อยกเว้นที่น่าสนใจ นั่นคือกรณีการปลดโปรแกรมเมอร์จำนวนมากในบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ เพราะงานด้านการเขียนโปรแกรมดูจะเป็นหนึ่งในงานที่เหมาะสมกับการนำ AI มาใช้มากที่สุด และถือเป็นกรณีศึกษาที่ชัดเจนที่สุดของการใช้ AI แทนแรงงาน

อีกทั้งบริษัทเทคโนโลยีเองก็เป็นกลุ่มที่มักนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาใช้ก่อนเสมอ จึงไม่น่าแปลกใจที่งานสายโปรแกรมเมอร์จะกลายเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ถูกลดจำนวนลงอย่างรวดเร็วในยุคที่ AI เริ่มเข้ามามีบทบาทในกระบวนการทำงาน

Artificial Intelligence หรือ ปัญญาประดิษฐ์

ในบางกรณี การนำ AI มาใช้กลับไม่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่เพราะขาดประโยชน์ แต่เป็นเพราะกลยุทธ์การนำไปใช้งานที่ผิดพลาด ขณะนี้ ธุรกิจยังสามารถเข้าใจและเห็นใจความลังเลของพนักงานที่ไม่อยากใช้งาน AI ที่ยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่ทำให้ตำแหน่งงานของพวกเขายังไม่ถูกแทนที่

แต่ในอนาคตอันใกล้ ธุรกิจจะต้องเผชิญกับความท้าทายที่ใหญ่กว่านั้น เพราะคุณค่าที่ AI สามารถสร้างให้ธุรกิจได้ จะกลายเป็นสิ่งที่ยากจะมองข้าม และอาจทำให้ทั้งองค์กรและพนักงานที่เคยคิดว่าตนเอง “ปลอดภัย” จากผลกระทบของ AI ต้องกลับมาทบทวนบทบาทของตัวเองอีกครั้ง

ความเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วหรือค่อยเป็นค่อยไป ขึ้นอยู่กับว่าธุรกิจและพนักงานจะเลือกเปิดรับการพัฒนาแต่ละช่วงของ AI อย่างไร และสิ่งนี้ กำลังเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้!

AIGEN Live chat