เตรียมพร้อมก่อนใคร กับ 7 เทรนด์การทำงานประจำปี 2025
ในโลกของการทำงานยุคใหม่ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แนวโน้มและพฤติกรรมการทำงานได้มีการปรับเปลี่ยน และพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับความต้องการ และไลฟ์สไตล์ที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบไฮบริด การใช้เทคโนโลยี AI หรือการให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและความสมดุลในชีวิต
วันนี้ Life at AIGEN จะพาเพื่อนๆ มาแลกเปลี่ยนแนวคิด และเทรนด์การทำงานที่น่าสนใจ ซึ่งสะท้อนถึงวิถีการทำงานในปี 2025 นี้
1.Hushed Hybrid – การทำงานแบบไฮบริดอย่างไม่เป็นทางการ
ถึงแม้ว่าหลายองค์กรจะมีนโยบายให้พนักงานกลับมาทำงานที่ออฟฟิศกันมากขึ้น แต่บางองค์กรยังคงอนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านได้แบบไม่เป็นทางการ สะท้อนถึงรูปแบบการทำงาน และการบริหารทีมที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น โดยโฟกัสที่ผลลัพธ์ของการทำงานเป็นหลัก
อย่างที่ AIGEN (ไอเจ็น) เรายังมีนโยบายการทำงานที่ยืดหยุ่น และสนับสนุนการทำงานแบบ Hybrid ที่ให้พนักงานเข้าออฟฟิศ 3 วันต่อสัปดาห์ และ Work from home ได้ 2 วันต่อสัปดาห์

2. Coffee Badging – การแวะเข้าออฟฟิศแบบสบายๆ
พฤติกรรมที่พนักงานเข้าออฟฟิศในช่วงเวลาสั้นๆ เพื่อดื่มกาแฟ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น หรือแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ก่อนจะกลับไปทำงานในที่อื่นเป็นอีกหนึ่งเทรนด์การทำงานที่เราอาจจะได้เห็นมากขึ้นในปี 2025 เพื่อตอบโจทย์กับพฤติกรรม และไลฟ์สไตล์การทำงานของคนยุคใหม่มากขึ้น
การทำงานที่ AIGEN (ไอเจ็น) เราสนับสนุนการทำงานที่ยืดหยุ่น พนักงานสามารถออกแบบ และวางแผนการทำงานของตัวเองได้อย่างอิสระ โดยคำนึงถึงผลลัพธ์ของการทำงานของตัวเอง และทีมเป็นหลัก

3. Alonement – การมีพื้นที่ส่วนตัวในที่ทำงาน
การมีพื้นที่ทำงานส่วนตัวช่วยเพิ่มสมาธิ และประสิทธิภาพในการทำงาน โดยเฉพาะในออฟฟิศที่มีการจัดสรรพื้นที่เงียบสงบให้กับพนักงาน เพื่อให้พนักงานได้ใช้ในการนั่งทำงาน หรือนั่งคิดงาน รวมไปถึงนั่งประชุมงาน ทำให้พนักงานได้สร้างสรรค์งานได้ตามเป้าหมายขององค์กร
AIGEN (ไอเจ็น) เรามีโต๊ะทำงานประจำสำหรับพนักงาน รวมถึงห้องที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้ที่ต้องการความเงียบในการทำงาน

4. Task Waiting – การจัดการงานตามจังหวะที่เหมาะสม
แนวทางการทำงานที่มุ่งเน้นการจัดลำดับความสำคัญ และเลือกลงมือทำในจังหวะที่เหมาะสม ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเครียดได้ โดยการนำเครื่องมือต่างๆ มาช่วยในการทำ To-do list หรือการจัดหน้าที่งาน ไม่ว่าจะเป็น Google Task, Notion จะช่วยให้คนทำงานยุคใหม่จัดการงานที่มีอยู่ในมือได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

5. New-Collar Worker – แรงงานยุคใหม่ที่เน้นทักษะเฉพาะทาง
คือการมุ่งเน้นทักษะเฉพาะทางด้านเทคโนโลยี หรือสายงานที่ต้องการทักษะใหม่ๆ ที่สามารถเรียนรู้ได้ผ่านการฝึกอบรมเฉพาะทาง หรือเลือกเรียนคอร์สเรียนต่าง ๆ เพื่อพัฒนาทักษะการทำงานของตัวเอง
AIGEN (ไอเจ็น) เราสนับสนุนการเรียนรู้ด้วยสวัสดิการพัฒนาทักษะมูลค่ากว่า 10,000 บาทต่อปี เพื่อให้พนักงานเลือกเรียนคอร์สที่ช่วยต่อยอด Career Path ได้อย่างอิสระ

6. Using AI in the Workplace – การใช้ AI ในการทำงาน
การนำ AI มาปรับใช้ในองค์กรอย่างยืดหยุ่น ทั้งในการทำงานประจำวัน และการนำมาเพิ่มประสิทธิภาพขั้นตอนการทำงาน เช่น การนำ AI มาช่วยเขียนโค้ด เขียนอีเมล หรือสรุปข้อมูล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและรองรับการทำงานในยุคดิจิทัลได้ดีมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ยังสามารถนำ AI มาใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลและปรับปรุงขั้นตอนการทำงานให้ทันสมัย รองรับความต้องการในยุคดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังช่วยเสริมการตัดสินใจด้วยข้อมูลที่แม่นยำ และสร้างความได้เปรียบในด้านการแข่งขันให้แก่องค์กร

7. Call-in-sick Generation – เจนเนอเรชันที่ใส่ใจสุขภาพจิต
ในยุคปัจจุบัน คนทำงานรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตและร่างกายมากขึ้น การลาป่วยไม่ได้จำกัดเพียงการพักฟื้นจากอาการป่วยทางกาย แต่ยังรวมถึงการดูแลสุขภาพจิตเมื่อเผชิญความเครียดหรือเหนื่อยล้าจากการทำงาน
พฤติกรรมนี้สะท้อนการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมการทำงานที่มุ่งเน้น Work-Life Balance อย่างแท้จริง โดยคนรุ่นใหม่มองว่าการลาป่วยเป็นสิทธิที่ไม่ควรรู้สึกผิด เพราะการดูแลตัวเองให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน
องค์กรที่ตอบรับแนวโน้มนี้มักมีนโยบายที่ยืดหยุ่น เช่น วันลาพักฟื้น การให้คำปรึกษาด้านสุขภาพจิต หรือการสร้างสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนสุขภาวะของพนักงาน ซึ่งช่วยเสริมทั้งประสิทธิภาพการทำงานและยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้นในระยะยาว

และนี่ก็เป็น 7 เทรนด์การทำงานประจำปี 2025 ที่ Life at AIGEN ได้รวบรวมมาให้เพื่อน ๆ ศึกษาเพื่อเตรียมให้พร้อม!
ร่วมงานกับพวกเรา AIGEN
AIGEN บริษัท Start up ด้านเทคโนโลยี AI และ Machine learning ที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน พื้นที่ของคนรุ่นใหม่ไฟแรง เปิดโอกาสในการเรียนรู้ สามารถทำงานแบบ Hybrid และมีวัฒนธรรมองค์กรสมัยใหม่ที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่โดยเฉพาะ นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการหลักสูตรออนไลน์สำหรับพัฒนาอาชีพ ที่ให้พนักงานสามารถเลือกสรรได้ตามต้องการมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับพวกเรา
AIGEN กำลังเปิดรับตำแหน่งสายงานทาง Tech ที่น่าสนใจหลายตำแหน่ง สามารถดูตำแหน่งงานที่กำลังเปิดรับสมัครได้ที่ Link